ปัจจัยก่อความดันสูง
สาเหตุที่ทำให้ความดันสูงมาจาก 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยทางกาย และปัจจัยทางอารมณ์ ได้แก่ ความเครียด ความโกรธ ความเศร้า ส่วนปัจจัยทางร่างกาย ได้แก่ การออกกำลังกายไม่เพียงพอ, การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล (เช่น อาหารที่มีไขมันสูง แต่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่ำ), การสูบบุหรี่, การนอนหลับพักผ่อนน้อย แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเพียง 2 ปัจจัยนั่นคือ ปัจจัยทางอารมณ์ และการออกกำลังกายไม่เพียงพอ
ปัจจัยทางอารมณ์ เมื่อเกิดความเครียด ความโกรธ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลินออกมาทำให้ผนังเส้นเลือดหดตัว เพื่อส่งเลือดที่มีออกซิเจนมากไปที่กล้ามเนื้อและสมองอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าหากคุณเครียดหรือเกิดอารมณ์โกรธเคืองเป็นประจำ อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะความดันโลหิตสูงอย่างถาวรได้
ส่วนการไม่ออกกำลังกายนั้น เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตคือ ระบบการไหลเวียนเลือดต้องอาศัยการบีบและคลายของกล้ามเนื้อทั้งตัวร่วมกับการทำงานของหัวใจ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณทรวงอก ช่องท้องและกระบังลม ในสภาวะการหายใจแบบปกติ การสูดอากาศที่มีออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย และส่งคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป จะทำให้เกิดแรงดันในทรวงอกและช่องท้อง ซึ่งมีผลต่อการบีบ-คลายของหัวใจเพื่อส่งเลือดด้วย ดังนั้นหากเราหายใจและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอย่างถูกต้อง ระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือดจะทำงานได้ราบรื่นขึ้น แต่ผู้ที่ไม่ค่อยขยับเขยื้อนร่างกายหรือนั่งอยู่กับที่นานๆ ระบบการหายใจจะไม่ได้ทำงานเต็มที่เหมือนขณะออกกำลังกาย กล้ามเนื้อทั่วร่างกายก็ไม่ค่อยได้ทำงาน นานวันเข้าความดันโลหิตจึงสูงขึ้น
ปรับความดันด้วยกีฬาฝึกลมหายใจ
การออกกำลังกายช้าๆ ที่ต้องร่วมกับการฝึกหายใจ อย่างเช่น โยคะ พีลาทีส ชี่กง ไทชิ มวยจีน ฯลฯ จึงให้ประโยชน์ 2 ประการคือ ช่วยการบีบตัวของกล้ามเนื้อและกระบังลม และเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เลือด
ประการหลังนี้สำคัญมากเพราะเลือดมีบทบาทเป็นตัวนำออกซิเจนซึ่งมีผลต่อความดันโลหิตมาก ถ้าเนื้อเยื่อในร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นโดยการฉีดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตจึงต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และหากเกิดในผู้ที่เส้นเลือดอุดตันเป็นบางส่วนอยู่แล้วก็จะยิ่งเป็นอันตราย เพราะอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาต หรือหัวใจล้มเหลว
การออกกำลังกายควบคู่ไปการกำหนดลมหายใจจึงช่วยปรับความดันโลหิต เพราะช่วยลดความเครียด และควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และหลอดเลือดทั่วร่างกายจะสูบฉีดเลือดได้ราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดแรงดันในทรวงอกและช่องท้อง ทำให้หัวใจไม่ต้องทำงานหนักเกินควร เพราะไม่มีแรงดันต้านกลับจากภายใน
อย่างไรก็ตามการควบคุมระดับความดันโลหิตก็ต้องทำร่วมกับการกินอาหารที่ดี การพักผ่อนเพียงพอ รวมถึงการผ่อนคลายความเครียด จึงจะส่งผลดีอย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน |