ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชกฤษฎีกา
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
กฎกระทรวง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ข่าวการปรับปรุง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
Download
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยวิธีปฏฺิบัติการภาษีอากรฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง


คำสั่งกรมสรรพากร

ที่ ป. 126/2546

เรื่อง      การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานและ ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน

 

---------------------------------------------

 

                เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจสอบและแนะนำเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้แก่ ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน และผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ตามข้อ 12/4 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544 กรมสรรพากรจึงมี คำสั่งดังต่อไปนี้

 

                ข้อ 1  ในคำสั่งนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

                        (1) คำว่า “ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ” หมายความว่า ค่าระวาง (Freight) ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) เนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทย หรือเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเรียกเก็บในหรือนอกประเทศไทย

                        (2) คำว่า “ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ส่งของออกนอกประเทศไทย ซึ่งในคำสั่งนี้เรียกว่า Shipper หรือผู้รับของในประเทศไทยซึ่งในคำสั่งนี้เรียกว่า Consignee หรือผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานซึ่งในคำสั่งนี้เรียกว่า Forwarder

                        (3) คำว่า “บริษัทสายการบินไทย” หมายความว่า บริษัทหรือห้าง หุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน

                        (4) คำว่า “บริษัทสายการบินต่างประเทศ” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศซึ่งประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน

 

                ข้อ 2  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้

                        (1) กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินไทย โดยบริษัทสายการบินไทยออกใบตราส่ง สินค้า (แอร์เวย์บิล) และใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินไทย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่า ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบินไทย

                        (2) กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศ โดยบริษัทสายการบินต่างประเทศออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ

                                (ก) กรณีจ่ายให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่ไม่มีอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินต่างประเทศ โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศ

                                (ข) กรณีจ่ายให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย โดยอนุสัญญาดังกล่าว มีข้อกำหนดให้เก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้นเท่านั้น ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

                                (ค) กรณีจ่ายให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย โดยอนุสัญญาดังกล่าว มีข้อกำหนดให้เก็บภาษีได้ร้อยละ 1.5 ของรายได้ทั้งหมดที่ได้รับ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมี หน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินต่างประเทศ โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบิน ต่างประเทศ

 

                ข้อ 3  กรณีบริษัทสายการบินต่างประเทศประกอบกิจการในประเทศไทยโดยมีการแต่งตั้งตัวแทนสายการบินหรือที่เรียกว่า “General Sales Agent (GSA)” เมื่อผู้ใช้บริการจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ตัวแทนสายการบิน (GSA) โดยตัวแทนสายการบินได้ออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) ในนามบริษัทสายการบินต่างประเทศให้แก่ผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่ตัวแทนสายการบิน (GSA) โดยระบุชื่อบริษัทสายการบินต่างประเทศ และเมื่อตัวแทนสายการบิน (GSA) นำเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยจำนวนดังกล่าวจ่ายให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศ ตัวแทนสายการบิน (GSA) ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

 

                ข้อ 4  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ซึ่งเรียกว่า Forwarder ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้

                        (1) กรณี Forwarder ได้ออกใบตราส่งสินค้า (เฮ้าส์แอร์เวย์บิล) ให้แก่ ผู้ใช้บริการแต่ละราย (Shipper หรือ Forwarder รายอื่น) ไปก่อน และ Forwarder ได้จ่ายเงินค่า ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินในนามของ Forwarder เอง โดยไม่สามารถแยกจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยเป็นแต่ละรายผู้ใช้บริการได้ Forwarder ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) โดยออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบินในนามของ Forwarder และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ในนามของ Forwarder โดยระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีอากรของ Forwarder ในช่อง “ผู้จ่ายเงิน” ซึ่งกรมสรรพากรจะออกใบเสร็จรับเงินในนามของ Forwarder

                              กรณี Forwarder ตามวรรคหนึ่งเรียกเก็บเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยจากผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 จาก Forwarder โดยออกหนังสือรับรอง การหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ เว้นแต่ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่ผู้ใช้บริการจ่ายให้แก่ Forwarder นั้นสามารถสอบยันได้กับจำนวนค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่ Forwarder จ่ายให้แก่บริษัทสายการบิน ซึ่ง Forwarder ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายแล้ว ผู้ใช้บริการไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่จ่ายให้แก่ Forwarder

                              การสอบยันค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยตามวรรคสอง ให้ Forwarder ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “ค่าขนส่งสินค้าขาออกตามใบเสร็จรับเงินฉบับนี้ Forwarder ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินแล้ว” หรือข้อความอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

                        (2) กรณี Forwarder จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบิน โดยบริษัทสายการบินออกใบตราส่ง สินค้า (แอร์เวย์บิล) ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) และบริษัทสายการบิน ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย ถือว่า Forwarder กระทำการเป็น ตัวแทนของผู้ใช้บริการ (Shipper) ดังนั้น เมื่อ Forwarder ได้จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินในนามของผู้ใช้บริการ(Shipper) Forwarder จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินตาม หลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และ Forwarder มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบิน โดยออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของตนเอง และระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย ต่อมาเมื่อผู้ใช้บริการ (Shipper) จ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ Forwarder ในภายหลัง ผู้ใช้บริการ (Shipper) ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

                              Forwarder ตามวรรคหนึ่ง มีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับแต่ละรายของผู้ใช้บริการ (Shipper) โดยจะต้องระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ใช้บริการ (Shipper) ในช่อง “ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย” และระบุชื่อ Forwarder ในช่อง “ผู้จ่ายเงิน” ซึ่งกรมสรรพากรจะออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) และ Forwarder มีหน้าที่ต้องส่งสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ใบเสร็จรับเงินจากการยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้แก่ผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย

 

                ข้อ 5  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบิน โดยบริษัทสายการบินออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) ให้แก่ผู้ใช้บริการ (Shipper) แต่บริษัทสายการบินเรียกเก็บ ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในต่างประเทศจากผู้ซื้อในต่างประเทศ บริษัทสายการบินต้องนำรายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) ไม่ว่าจะเรียกเก็บในหรือนอกประเทศไทยมารวมคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 หรือมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากผู้ใช้บริการ (Shipper) มิได้เป็นผู้จ่ายเงินได้จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

                        กรณีบริษัทสายการบินตามวรรคหนึ่ง ได้ออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) ให้แก่ Forwarder ในประเทศไทย แต่บริษัทสายการบินเรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยในต่างประเทศจาก Forwarder ในต่างประเทศ กรณีดังกล่าว Forwarder ในประเทศไทยซึ่งมิได้เป็นผู้จ่ายเงินได้ จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และกรณี Forwarder ในประเทศไทยออกใบตราส่งสินค้า (เฮาส์แอร์เวย์บิล) ให้แก่ผู้ใช้บริการ (Shipper) หากใบตราส่งสินค้า (เฮาส์แอร์เวย์บิล) ดังกล่าว ระบุค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เรียกเก็บในต่างประเทศ ผู้ใช้บริการ (Shipper) ซึ่งมิได้เป็นผู้จ่ายเงินได้จึงไม่มี หน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

 

                ข้อ 6  กรณีบริษัทสายการบินตามข้อ 2 ตัวแทนสายการบิน (GSA) ตามข้อ 3หรือ Forwarder ตามข้อ 4 ออกเอกสารเรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยไม่สามารถระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใด ที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ใน แอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล บริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน และ Forwarder สามารถออกเอกสารโดยระบุเฉพาะค่าระวาง (Freight) ไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล และระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ เมื่อผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินตามแอร์เวย์บิลหรือ เฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ดังกล่าว ถือเป็นการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน หรือ Forwarder แล้วแต่กรณี โดยคำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนั้น

 

                ข้อ 7  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้

                        (1) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินไทย โดยบริษัทสายการบินไทยออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่บริษัทสายการบินไทย

                        (2) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศ โดยบริษัทสายการบินต่างประเทศออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ โดยเหตุที่ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

 

                ข้อ 8  กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Forwarder) โดย Forwarder กระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ และ Forwarder ในประเทศไทย ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ถือว่าผู้ใช้บริการจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

                        กรณี Forwarder ในประเทศไทยได้กระทำการในฐานะเป็นตัวแทน เรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยของForwarder ในต่างประเทศ Forwarder ในประเทศไทยจะต้องมีหลักฐานหรือเอกสารอื่นใดที่มี เนื้อหาแสดงว่ากระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ

 

                ข้อ 9  กรณีบริษัทสายการบินตามข้อ 2 ตัวแทนสายการบิน (GSA) ตามข้อ 3หรือ Forwarder ตามข้อ 4 เรียกเก็บค่าบริการหรือเรียกว่า Handling Charge (H/D) นอกเหนือจากค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจากผู้ใช้บริการ ซึ่งค่าบริการดังกล่าวอาจระบุไว้ในแอร์เวย์บิล เฮาส์แอร์เวย์บิล เอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ ค่าบริการ (Handling Charge) ถือเป็นค่าตอบแทนที่ผู้ใช้บริการจ่าย ให้แก่บริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน (GSA) หรือ Forwarder ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 ของค่าบริการ (Handling Charge) นั้น ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544

 

                ข้อ 10  ให้นำความในข้อ 6 มาใช้บังคับสำหรับการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานและผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Forwarder) ด้วย

 

                ข้อ 11  ให้นำความในข้อ 4 ถึงข้อ 10 มาใช้บังคับสำหรับการจ่ายเงินค่าขนส่ง สินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยและการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการเป็นตัวแทนรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานซึ่งเป็นตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งด้วย

 

สั่ง ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546

 

ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล

อธิบดีกรมสรรพากร

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Tuesday, August 19, 2014

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161