|
|

|
1. บริษัทมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน และมีมูลค่าทรัพย์สินถาวรไม่เกิน 200 ล้านบาท ใช้อาคารตึกแถวชั้นบนเป็นสำนักงาน ชั้นล่างเป็นโรงงาน บริษัทจะนำมูลค่าตึกแถวทั้งหมดมาหักค่าเสื่อมราคาในอัตราพิเศษตาม ม.4 เบญจแห่ง พรฎ.395 ได้หรือไม่ |
 |
ไม่ได้ เนื่องจากบริษัทใช้อาคารหลังเดียวเป็นทั้งสำนักงานและโรงงาน บริษัทไม่มีสิทธิหักค่าเสื่อมราคาโรงงานในอัตราพิเศษตาม พรฎ.395 |
|
2. กรณีบริษัทฯ ซื้ออาคารพร้อมที่ดินเป็นการตกลงราคาเหมารวม ไม่ได้แยกราคาอาคารออก และไม่สามารถคำนวณราคาค่าก่อสร้างได้ เนื่องจากปลูกสร้างมานานแล้ว บริษัทฯ จะใช้ราคาประเมินฯ ที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินมาหักออกจากราคาเหมารวม ส่วนต่างถือเป็นราคาอาคาร ได้หรือไม่ |
 |
ได้ เนื่องจากราคาประเมินฯที่ดินเป็นราคาที่ทางราชการกำหนดขึ้น บริษัทสามารถใช้ราคาประเมินดังกล่าวมาหักออกจากราคาเหมารวม เพื่อหายอดคงเหลือเป็นราคาอาคาร |
|
3. บริษัทจะจัดตั้งโรงงานเพื่อผลิต ผสม หรือบรรจุอาหารสัตว์ และได้ซื้อหรือก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นโกดังสินค้า กรณีดังกล่าว บริษัทจะสามารถหักค่าเสื่อมราคาอาคารโกดังในอัตราพิเศษตาม มาตรา 4 เบญจ แห่งพรฎ.395 ได้หรือไม่ |
 |
ไม่ได้ บริษัทจะมีสิทธิหักค่าเสื่อมราคาอาคารโกดังเก็บสินค้าตามปกติในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าต้นทุนอาคาร แต่ไม่มีสิทธิหักค่าเสื่อมราคาในอัตราพิเศษตาม พรฎ.395 |
|
4. VC ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ต้องลงทุนใน SMEs ซึ่งมีสินทรัพย์ถาวร(ไม่รวมที่ดิน) ไม่เกิน 200 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน กรมสรรพากรมีแนวทางในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร |
 |
กรณีมูลค่าทรัพย์สินถาวรจะพิจารณา ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี โดยประเมินราคาตามราคาบัญชี(book value) ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี กรณีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน จะวัด ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี โดยดูจากสภาพข้อเท็จจริง เช่น การขึ้นทะเบียนตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่เกิน 200 คน หรือจำนวนลูกจ้างที่จ่ายเงินเข้ากองทุนตามกฎหมายประกันสังคม เป็นต้น สำหรับเอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณา จะดูจาก งบการเงินที่ผู้ประกอบการต้องยื่นพร้อมแบบฯ ภ.ง.ด.50 และอาจจะขอดูข้อเท็จจริงจากเอกสารที่เกี่ยวข้องบางกรณี |
|
5. กรณี VC ไปลงทุนใน SMEs แล้ว หาก SMEs มีขนาดของทรัพย์สินหรือจ้างแรงงานเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ VC จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือไม่ |
 |
หาก SMEs ที่ VC ลงทุนไม่เข้าเงื่อนไขเป็น SMEs แล้ว VC ก็จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย |
|
6. การกำหนดให้ VC ต้องถือหุ้นใน SMEs ตามสัดส่วนการลงทุน หุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นประเภทใดบ้าง เช่น หุ้นสามัญ / หุ้นบุริมสิทธิ หรือ หุ้นกู้/หุ้นกู้แปลงสภาพได้หรือไม่ |
 |
การลงทุนของ VC ใน SMEs ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หมายถึง เฉพาะการลงทุนในหุ้นสามัญ |
|
7. หาก VC ลงทุนในหุ้น SMEs เดิมหลายๆครั้ง จะนับระยะเวลาการให้สิทธิที่กำหนดไว้ 7 ปี นับจาก วันใด (เช่น นับเฉพาะวันแรกที่เริ่มลงทุน หรือนับ 7 ปีจากวันที่ได้ลงทุนเพิ่มทุกครั้ง) |
 |
การลงทุนของ VC ใน SMEs ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หมายถึง เฉพาะการลงทุนในหุ้นสามัญ |
|
8. ตามนัยมาตรา 5 อัฎฐารส(1) วรรคสอง กรณีที่ VC จัดตั้งครั้งแรกด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ซึ่งภายหลังได้เพิ่มทุนจดทะเบียนมากกว่า 200 ล้านบาท และต้องการลดทุนให้เหลือ 200 ล้านบาทจะกระทำได้หรือไม่ และมีระยะเวลากำหนดหรือไม่อย่างไร |
 |
การลดทุนจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อลงทุนครบ 7 ปี | 
|
|
Last update : Tuesday, January 30, 2007
|
|
|
|