เลขที่ข่าว ปชส. 22 /2545
วันที่แถลงข่าว 13 มีนาคม 2545
เรื่อง สรรพากรเปิดบ้านโชว์ IT รับสภาอุตสาหกรรมฯ เน้นนโยบายเสียภาษีให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ก็จะไม่เป็นเหตุให้ย้อนหลัง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรมสรรพากรได้เชิญผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสาขาต่างๆ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการจัดเก็บภาษีแนวใหม่ เพื่อประสานความร่วมมือและให้สมาชิกเสียภาษีถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการถูกตรวจสอบและประเมินภาษีย้อนหลัง พร้อมสาธิตระบบงานไอทีและระบบคัดค้นข้อมูลเชิงลึกเพื่อการบริหารภาษีจากข้อมูลทั้งภายในภายนอกและเป็นปัจจุบัน
เมื่อวานนี้ (13 มีนาคม 2545) กรมสรรพากรโดย นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานการประชุมระหว่างผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากร กับ ผู้บริหารของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยโดย นายประพัฒน ์ โพธิวรคุณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ พร้อมสมาชิกกว่า 50 คน เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสานต่อการปฏิบัติจัดเก็บภาษีให้เกิดความสะดวกและเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการทั่วไป พร้อมกันนี้กรมสรรพากรยังได้ชี้ ให้เห็นแนวนโยบายการจัดเก็บภาษีปัจจุบันที่มุ่งเน้นการกำกับดูแล ให้คำปรึกษา แนะนำผู้เสียภาษีเป็นรายกิจการอย่างใกล้ชิด เมื่อปัจจุบันเสียภาษีถูกต้องแล้วก็ไม่มีเหตุให้ต้องตรวจสอบและประเมินภาษีย้อนหลัง จึงขอให้สภาอุตสาหกรรมฯ ได้สร้างความเข้าใจกับสมาชิกในเครือข่ายให้มีการเสียภาษีในปัจจุบันให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง โดยเฉพาะงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2544 เป็นต้นไป นอกจากนี้กรมสรรพากรยังได้สาธิตระบบการคัดค้นฐานข้อมูลของผู้เสียภาษีเป็นรายกิจการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งหน่วยงานสรรพากรทั่วประเทศสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้ทันที และอย่างเป็นปัจจุบันทุกประเภทภาษี รวมทั้งการเชื่อมโยงเรียกใช้ข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก เช่น ข้อมูลการนำเข้าส่งออกของกรมศุลกากร ข้อมูลการผลิตของผู้ประกอบอุตสาหกรรมจากกรมสรรพสามิต และ การคัดค้นงบการเงินของนิติบุคคลจากกระทรวงพาณิชย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Business on line หรือ BOL)เป็นต้น
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า " การจัดเก็บภาษีแนวใหม่จะมุ่งเน้นการกำกับดูแลเพื่อให้มีการเสียภาษีอย่างถูกต้องครบถ้วน เมื่อพบว่ามีการปฎิบัติไม่ถูกต้องในส่วนใดก็ให้คำแนะนำให้เสียให้ถูกต้องทันที แทนระบบเดิมที่มุ่งตรวจสอบเมื่อพบความผิดก็ประเมิน ซึ่งใช้เวลาติดตามยาวนานกว่าจะพบความผิดทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ได้แต่ตัวเลขหนี้ค้าง ไม่เกิดผลดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้กรมสรรพากรจะได้ประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าไทยอีกทางหนึ่งในปลายเดือนมีนาคมศกนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ชี้แจงแนวนโยบายให้แก่กลุ่มผู้แทนสำนักงานบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไปแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมา " 
|