เลขที่ข่าว    ปชส.  2/2548

วันที่แถลงข่าว     29  ตุลาคม  2547

เรื่อง     กรมสรรพากรประชุมหน่วยจัดเก็บภาษีทั่วประเทศเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธศาสตร์

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                           กรมสรรพากรได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาผู้บริหารหน่วยงานจัดเก็บภาษี ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง สรรพากรภาค และสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 26 – 29 ตุลาคม 2547  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงานตามแผน      กลยุทธ์ด้านการจัดเก็บภาษีสำหรับปีงบประมาณ 2548 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลและกระทรวงการคลังเป็นหลัก นอกจากนี้ยังจัดให้มีการเสริมความรู้โดยจัดการบรรยายในเรื่องต่าง ๆ เริ่มจาก ภาพรวมเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับงานของกรมสรรพากร การใช้ระบบงาน Government Fiscal  Management Information System (GFMIS) เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารงาน การรักษาบุคลิกภาพที่ดีของผู้บริหาร  และที่สำคัญคือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยเชิญตัวแทนจากกรมสรรพากรประเทศออสเตรเลีย มาบรรยายเรื่องการพัฒนาองค์กร และวิทยากรจากมหาวิทยาลัยมหิดลมาบรรยายเรื่อง IT ในอนาคต

                          สำหรับแผนงานในปีงบประมาณ 2548 ภายใต้เป้าหมายการจัดเก็บภาษีตามเอกสาร  งบประมาณ 820,000 ล้านบาทนี้  กรมสรรพากรยังคงมุ่งเน้นการกำกับดูแลผู้เสียภาษีให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน และปรับบทบาทการปฏิบัติงานให้มีลักษณะเป็นหุ้นส่วน (Partnership) กับภาคเอกชนโดยเปิดโอกาสให้  เอกชนมีส่วนร่วมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พร้อมไปกับการพัฒนาระบบงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างประสิทธิผลต่อการปฏิบัติงานจัดเก็บภาษีอย่างต่อเนื่อง

                         ในด้านการปรับระบบภาษีเพื่อการสนับสนุนแนวนโยบายของรัฐที่สำคัญ นั้น  กรมสรรพากรเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างสังคมที่ดีและเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมกับสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดย่อมให้มีศักยภาพด้านการแข่งขันเพิ่มขึ้น จึงได้มีมาตรการภาษีต่าง ๆ ที่ให้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2547

                         นายศิโรตม์  สวัสดิ์พาณิชย์  อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “การซักซ้อมความเข้าใจแก่  ผู้บริหารระดับสูงซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละหน่วยงานทั่วประเทศครั้งนี้ จะทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าทุกหน่วย      จะปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกันอย่างสอดคล้องทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้รับ  จากรัฐบาล โดยผู้เสียภาษีและประชาชนโดยทั่วไปได้รับประโยชน์สูงสุดจากการได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส”