ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชกฤษฎีกา
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
กฎกระทรวง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ข่าวการปรับปรุง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
Download
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยวิธีปฏฺิบัติการภาษีอากรฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง


คำสั่งกรมสรรพากร

ที่ ป.130/2547

เรื่อง  ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต

 

--------------------------------

 

                เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำผู้เสียภาษีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต สำหรับการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะกรณี การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

 

                ข้อ   1   คำว่า “ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต” หมายความว่า ผู้ประกอบการที่ออกบัตรเครดิตให้แก่ผู้ถือบัตรเพื่อใช้ชำระราคาสินค้า ค่าบริการ หรือเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ จากบัตรเครดิต โดยผู้ประกอบการจะเป็นผู้ชำระราคาสินค้า หรือค่าบริการให้แก่ผู้รับบัตรแทนผู้ถือบัตรก่อน ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรต้องชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ดอกเบี้ย หรือค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์ในบัตรเครดิตนั้น

                        คำว่า “ผู้ถือบัตร” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งได้รับ การออกบัตรเครดิต เพื่อใช้ชำระราคาสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้รับบัตร หรือเพื่อใช้ประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ จากบัตรเครดิต นอกจากนี้ให้หมายความรวมถึงผู้ที่ได้รับการออกบัตรเครดิตประเภทบัตรเสริมด้วย

                        คำว่า “ผู้รับบัตร” หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งตกลงรับชำระราคาสินค้าหรือค่าบริการด้วยบัตรเครดิตจากผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต

 

                ข้อ   2   การประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเป็นกิจการเฉพาะอย่างที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นกิจการที่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา 91/4(2) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3(2) แห่ง พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการเฉพาะอย่าง ที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะให้เป็นกิจการที่ต้องเสียภาษี มูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 246) พ.ศ.2534

                        การประกอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง แต่เข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการการธนาคารตามกฎหมาย ว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือกฎหมายเฉพาะหรือการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ตามมาตรา 91/2(1) และ (5) แห่งประมวลรัษฎากร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

 

                ข้อ   3   ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตตามข้อ 2 วรรคหนึ่ง ซึ่งได้ให้บริการในราชอาณาจักรมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 และมาตรา 82 แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร

                        การให้บริการตามวรรคหนึ่ง ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาค่าบริการ เว้นแต่กรณีที่ได้มีการออกใบกำกับภาษีหรือได้ใช้บริการไม่ว่าโดย ตนเองหรือบุคคลอื่นเกิดขึ้นก่อนได้รับชำระราคาค่าบริการ ก็ให้ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ แล้วแต่กรณี ตามมาตรา 78/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร

                        ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตตามวรรคหนึ่ง ต้องนำมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตมารวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณเสียภาษี มูลค่าเพิ่มตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โดยมูลค่าของฐานภาษีที่ต้องนำไปรวมคำนวณ เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น

                        (1) ค่าธรรมเนียมการเข้าเป็นสมาชิกบัตรเครดิตของผู้ถือบัตร เช่น ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Membership fee) ค่าธรรมเนียมรายปี (Annual fee) ค่าทำบัตรใหม่

                        (2) ค่าธรรมเนียมการขอเอกสารเกี่ยวกับบัตรเครดิต

                        (3) ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการให้บริการเบิกถอนเงินสดผ่านบัตรเครดิตที่เรียกเก็บจากผู้ถือบัตรได้ไม่เกินอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ไม่ว่าการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายจะเรียกชื่ออย่างใดก็ตาม เช่น Cash advance fee ATM service fee (สำหรับบัตรเครดิต) Transaction fee ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า ของผู้ถือบัตรไทยในต่างประเทศ

                        (4) ค่าบริการใช้เครื่องรูดบัตรที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตรายอื่น

                        (5) ส่วนลด (Discount revenue) ที่ได้รับจากร้านค้าสมาชิกในประเทศและต่างประเทศ

                        (6) ค่าตอบแทนที่ได้รับจากผู้รับบัตรเนื่องจากการจัดรายการส่งเสริมการขายร่วมกัน

                        (7) ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการติดตามทวงถามการชำระหนี้จากบัตรเครดิตที่เรียกเก็บจากผู้ถือบัตร

                        (8) ค่าธรรมเนียมการชำระเงินจากบัตรเครดิตที่เรียกเก็บจากผู้ถือบัตร

                        (9) ส่วนแบ่งรายได้จากการใช้บัตรเครดิต (Billing credit)

 

                ข้อ   4   ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตตามข้อ 2 วรรคสอง ในราชอาณาจักร มีหน้าที่ ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราร้อยละ 3.0 ของรายรับตามมาตรา 91/6 แห่งประมวลรัษฎากร

                        ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตต้องนำรายรับที่ได้รับหรือพึงได้รับเนื่องจากการประกอบกิจการมารวมคำนวณเป็นรายรับในการคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/5 แห่งประมวลรัษฎากร โดยรายรับที่ต้องนำไปรวมคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตัวอย่างเช่น

                        (1) ดอกเบี้ยในหนี้ค้างชำระ (Interest rate) หรือดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดชำระหนี้ หรือค่าปรับในการชำระหนี้ล่าช้ากว่ากำหนด (Late payment penalties) หรือค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันซึ่งเรียกเก็บจากผู้ถือบัตร

                        (2) ดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือบัตรจากการให้ผู้ถือบัตรผ่อนชำระเป็นงวด

                        (3) ดอกเบี้ยการเบิกถอนเงินสดผ่านบัตรเครดิตจากผู้ถือบัตร (Interest on cash advance)

                        (4) ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต (Interchange fee)

 

                ข้อ   5   บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือ หรือทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้เป็นอันยกเลิก

 

สั่ง ณ วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2547

 

 

ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์

(นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์)

อธิบดีกรมสรรพากร

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Tuesday, August 19, 2014

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161