เลขที่ข่าว ปชส. 8/2548
วันที่แถลงข่าว 6 มกราคม 2548
เรื่อง กรมสรรพากร เต็มที่ เติมน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์
สึนามิถล่มในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้นั้น เจ้าหน้าที่สรรพากรต่างได้ร่วมแรงใจบริจาคเงินและ สิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งนี้ จากจำนวนเจ้าหน้าที่สรรพากรประมาณ 23,000 คน ภายในเวลาแค่ 2 วันแรก ก็สามารถรวบรวมเงินบริจาคที่ส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่สรรพากรเองได้มากกว่า 2.6 ล้านบาท และยังมีการทยอยบริจาคเข้ามาเรื่อยๆ และในส่วนการบริจาคสิ่งของนั้นได้มีการจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นนำไปบริจาคในพื้นที่ด้วยแล้ว
ในส่วนของมาตรการภาษีนั้น กรมสรรพากรได้นำเสนอมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ หลายประการ กล่าวคือ
1. การบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติ
1) บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงิน ให้ส่วนราชการโดยตรงหรือให้ส่วนราชการโดยผ่านเอกชน โดยมีหนังสือรับรองจากราชการว่าเป็นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 6 จังหวัดภาคใต้ สามารถนำ หลักฐานดังกล่าวมาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีได้ตามที่บริจาคจริง ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวจะต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างๆ ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิประจำปี
หากมีการบริจาคเงินหรือสิ่งของให้ส่วนราชการโดยตรงหรือให้กับส่วนราชการโดยผ่านเอกชน และมีหนังสือรับรองจากราชการว่าเป็นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 6 จังหวัดภาคใต้ หรือกรณีมี หลักฐานการบริจาคที่ผ่านการอนุมัติจากกรมสรรพากรแล้วก็สามารถนำหลักฐานที่ทางราชการออกให้ ดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ โดยถือว่าเป็นการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยหักเป็นรายจ่ายได้ตามที่ได้จ่ายจริง โดยไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิในปีที่มีการบริจาคนั้น
3) ในกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้นำทรัพย์สิน สินค้า หรือบริการของตนเอง บริจาคให้ส่วนราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 6 จังหวัดภาคใต้ กรมสรรพากรถือว่าการบริจาคดังกล่าวเป็นเหตุอันสมควร ทรัพย์สิน สินค้า หรือบริการของตนเองดังกล่าว จึงไม่ต้องถือเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และไม่นับรวมคำนวณเป็นฐานเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. การช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรณีพิบัติโดยตรง
1) ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ตามพื้นที่ที่ได้รับผลเสียหาย สำหรับภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยให้นำรายได้ในเดือนธันวาคม 2547 มกราคม 2548 และ กุมภาพันธ์ 2548 โดยให้ไปยื่นพร้อมกับรายได้ของเดือนมีนาคม 2548 ที่ต้องยื่นเดือนเมษายน 2548
2) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีทรัพย์สินเสียหายโดยที่ทรัพย์สินดังกล่าวยังหัก ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาไม่หมด ก็ให้สามารถนำส่วนที่ยังหักไม่หมดดังกล่าวเป็นรายจ่ายได้ทั้งจำนวน ซึ่งหากมีรายได้น้อยหรือไม่มีรายได้แต่มีรายจ่ายดังกล่าวสูง ก็อาจทำให้ไม่มีกำไร และไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี และถ้าหากยังมีผลขาดทุนสะสมเกิดขึ้นก็ยังนำไปถือเป็นรายจ่ายในปีถัดไปได้อีกด้วย
3) กรณีบุคคลธรรมดาที่มีหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในพื้นที่ที่ประสบภัยใน 6 จังหวัดภาคใต้ และ ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว หากได้มีการขึ้นทะเบียนกับศูนย์หรือหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทางราชการแล้ว ก็จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้รับ โดยยกเว้นให้เท่ากับมูลค่าความเสียหาย ซึ่งมีค่าเสมือนการยอมให้หักเป็นรายจ่ายได้เท่ากับมูลค่าที่เสียหายได้นั่นเอง
4) ในกรณีที่ผู้เสียหายจากธรณีพิบัติมีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรได้มีการพิจารณาเร่งรัดการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้อย่างรวดเร็ว

|