ข้อหารือ | : ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ เกี่ยวกับยอดที่จะนำมาคำนวณกำไรหรือขาดทุนจากการตีราคาทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเป็นหนี้สินและทรัพย์สินระยะสั้น ซึ่งครบกำหนดในปี 2540 และปี 2541 ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 1. ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารพาณิชย์ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ทั้งด้านทรัพย์สินและหนี้สินที่มีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศ เช่น ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 = (238,233,946.12) บาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 = 6,637,281.80 บาท ยอดขาดทุนสุทธิ = (229,596,664.32)บาท แล้วเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี 31 ธันวาคม 2540 ต้องคำนวณปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนอีกครั้งหรือไม่ 2. ยอดคงเหลือ สิ้นสุด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2540 โดยใช้อัตราถัวเฉลี่ยในวันสุดท้ายของปี คำนวณค่าหรือราคาเป็นเงินตราไทยตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่งแห่งประมวลรัษฎากร เช่น ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2540 =(250,000,000.00) บาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2540 = 15,000,000.00 บาท ยอดขาดทุนสุทธิ = (235,000,000.00) บาท 3. ยอดกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจริงที่เกิดในหรือหลังวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 จนถึงวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีที่สิ้นสุดในปีนี้ เช่น ณ วันที่ 28สิงหาคม 2540 ชำระเงินกู้ 5,000,000 $ ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน =(41,250,000.00) บาท ณ วันที่ 1 กันยายน 2540 ชำระเงินกู้ 8,000,000 $ ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน = 67,600,000.00 บาท ณ วันที่ 8 กันยายน 2540 ได้รับชำระหนี้ 30,000 $ กำไรอัตราแลกเปลี่ยน = 321,000.00 บาท ยอดสะสมตั้งแต่ 2กรกฎาคม 2540 ถึง 31 ธันวาคม 2540 = (108,529,000.00) บาท จากตัวอย่างทั้ง 3 ตัวอย่างข้างต้น ตัวอย่างใดที่เป็นไปตามคำสั่งของกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ |