ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/04028

วันที่

: 1 เมษายน 2541

เรื่อง

: เงื่อนไขการปฏิบัติเกี่ยวกับการบันทึกบัญชีกำไรหรือขาดทุนจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65 ทวิ (5), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ

ข้อหารือ

: คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ได้วาง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เนื่องจาก
การปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราตามประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540
ไว้ 3 วิธี และในข้อ 4 ของประกาศฉบับดังกล่าว กำหนดเป็นเงื่อนไขว่า "เมื่อ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดได้เลือกปฏิบัติตามข้อ 1 ข้อ 2 หรือ ข้อ 3 แล้ว
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องปฏิบัติอย่างเดียวกันทั้งในด้านรายได้และรายจ่ายและทั้งในบัญชีของ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเอง รวมตลอดทั้งในบัญชีเพื่อประโยชน์ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือ
ขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย" ณ วันสิ้นงวดบัญชีหากบริษัทได้คำนวณค่าของทรัพย์สินหรือ
หนี้สินซึ่งมีราคาเป็นเงินตราต่างประเทศที่เหลืออยู่เป็นเงินตราไทยตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง
แห่งประมวลรัษฎากร ผลของการคำนวณบริษัทได้นำผลกำไรหรือขาดทุนจากการตีราคาทรัพย์สินหรือหนี้สิน
ดังกล่าวไปถือเป็นรายได้หรือรายจ่ายทั้งจำนวนแล้วแต่กรณี ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักการบัญชีที่
รับรองทั่วไป แต่ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ถ้าบริษัทมีความ
ประสงค์จะเลือกปฏิบัติตามข้อ 2 หรือ ข้อ 3 ไม่ว่าวิธีใดแล้วก็จะขัดกับเงื่อนไขในข้อ 4 ซึ่งหมายความ
ว่าถ้าบริษัทใดจะเลือกปฏิบัติตามข้อ 2 หรือ ข้อ 3 โดยไม่ขัดกับข้อ 4 บริษัทก็ต้องปฏิบัติในด้านรายได้
และรายจ่ายที่ไม่สอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีต้องรับรองงบการเงิน
ของบริษัทอย่างมีเงื่อนไข
สำหรับเงื่อนไขตามข้อ 4. ถ้าประสงค์จะให้บริษัทแสดงกำไรหรือขาดทุนสุทธิในบัญชีของ
บริษัทให้ตรงกับบัญชี เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อความสะดวกในการควบคุมการเสียภาษีให้ถูกต้อง
แล้ว ก็เพียงแต่กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทแสดงให้ชัดเจนว่า บริษัทได้เลือกใช้วิธีการคำนวณรายได้หรือ
รายจ่ายที่เกิดจากการคำนวณทรัพย์สินหรือหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่เหลืออยู่เป็นเงินตราไทยตาม
วิธีใดและต่างจากการบันทึกบัญชีของบริษัทอย่างไรใน แบบ ภ.ง.ด.50 ของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่
เกี่ยวข้องก็พอเพียงกับการควบคุมให้การเสียภาษีถูกต้องแล้ว เช่น ถ้าบริษัทมีผลขาดทุนจาก
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร
คือวันที่ 31 ธันวาคม 2540 ตามบัญชีทั้งหมดเท่ากับ 1,000 ล้านบาท แต่ประสงค์ที่จะเลือกนำมาถือเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 รอบระยะเวลาบัญชีเท่ากันทุก
รอบระยะเวลาบัญชีตามข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ก็ต้องแสดงในแบบ
ภ.ง.ด.50 ของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่เกี่ยวข้อง
รอบระยะเวลา ขาดทุนอัตรา ขาดทุนที่ใช้ในรอบ ขาดทุนคงเหลือ
บัญชีสิ้นสุด แลกเปลี่ยนรวมตาม ระยะเวลาบัญชี ยกไป
1/12/2540 1,000 200 800
31/12/2541 - 200 600
31/12/2542 - 200 400
31/12/2543 - 200 200
31/12/2544 - 200 -
จึงขอให้ผ่อนปรนข้อ 4 ของคำสั่งอธิบดีกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24
กรกฎาคม พ.ศ. 2540 โดยไม่ต้องกำหนดเงื่อนไขในการบันทึกบัญชีด้านรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นจาก
การปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราในบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เนื่องจากกรณี
ดังกล่าวจะต้องมีการปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปอยู่แล้ว แต่ควรกำหนดเงื่อนไขซึ่ง
สามารถนำมาใช้เป็นมาตรการสำหรับควบคุมการเสียภาษีให้ถูกต้อง

แนววินิจฉัย

: กรณีตามข้อเท็จจริงดังกล่าว กรมสรรพากรได้พิจารณาผ่อนปรนให้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะต้องคำนวณกำไรสุทธิให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 30 แต่ใน
การยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลมีความประสงค์จะนำผลกำไรหรือขาดทุนจาก
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมาถือเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ตามข้อ 2
และ ข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ก็ให้
กระทำได้ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหมายเหตุประกอบงบการเงินว่า การคำนวณกำไรหรือ
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดลงในหรือหลัง
วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ใช้วิธีการข้อใดของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯลงวันที่ 24
กรกฎาคม พ.ศ. 2540 และให้หมายเหตุประกอบงบการเงินแต่ละปีจนกว่าการคำนวณรายได้หรือ
รายจ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 จะหมดสิ้น
ไป โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ต้องบันทึกบัญชีและจัดทำงบกำไรขาดทุนให้เป็นวิธีการเดียวกับ
การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ได้

เลขตู้

: 61/26548

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161