ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/13569

วันที่

: 16 กันยายน 2541

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินมัดจำค่าเช่าและค่าบริการจากการให้เช่าพื้นที่ในอาคาร

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 78/1(1), มาตรา 79, มาตรา 81(1)(ต), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.73/2541ฯ

ข้อหารือ

: บริษัทฯ ประกอบธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในอาคารในการประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่ดังกล่าว
บริษัทฯ มีการให้บริการที่ต่อเนื่องกันโดยเริ่มประกอบกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 บริษัทฯ ได้ยึดถือ
ขนบธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจ โดยการเรียกเงินมัดจำค่าเช่าและเงินมัดจำค่าบริการเป็นจำนวน 3
เท่าของค่าเช่าและค่าบริการรายเดือน เพื่อประกันการเช่าและประกันความเสียหายจากการใช้บริการ
ของผู้เช่า ซึ่งเงินมัดจำจำนวนดังกล่าวจะไม่ใช้ทดแทนการชำระค่าเช่าและค่าบริการรายเดือน และ
บริษัทฯ จะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง โดยผู้เช่ามิได้ค้างชำระค่าเช่าและค่าบริการ หรือมิได้
ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบริษัท ทั้งนี้บริษัทฯ มิได้นำเงินมัดจำดังกล่าวมาคำนวณชำระ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ต่อมากรมสรรพากรได้มีคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.73/2541 วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ
การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการเรียกเก็บเงินจ่ายล่วงหน้า เงินประกัน
เงินมัดจำ หรือเงินจอง โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไปนั้นมีผลกระทบต่อการ
ประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนที่เกี่ยวกับการให้เช่าพื้นที่ในอาคารและบริการต่อเนื่องกับการเช่าพื้นที่
ในอาคารดังกล่าว บริษัทฯจึงขอทราบว่า
1. เงินมัดจำค่าเช่า และเงินมัดจำค่าบริการ ที่บริษัทฯ เรียกเก็บเมื่อปี พ.ศ. 2534
โดยที่มิได้นำไปคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี บริษัทฯ ปฏิบัติถูกต้องหรือไม่
2. เงินมัดจำค่าบริการที่บริษัทฯ เรียกเก็บตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา บริษัทฯ ต้อง
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยหรือไม่
3. เงินมัดจำค่าเช่าที่บริษัทฯ เรียกเก็บเป็นจำนวน 3 เท่าของค่าเช่า และสัญญามีอายุ
ไม่เกิน 3 ปีอยู่ในข่ายยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่ต้องนำมารวมคำนวณเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามข้อ 3(2) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.73/2541 หรือไม่
4. หากการปฏิบัติของบริษัทฯ ไม่ถูกต้องในข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.
73/2541 ซึ่งระบุว่ามีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2541 บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากคำสั่ง
ดังกล่าวโดยไม่ถูกประเมินย้อนหลังหรือไม่ ประการใด และหากถูกประเมินย้อนหลังได้จะย้อนหลังได้กี่ปี

แนววินิจฉัย

: 1. กรณี ตาม 1. และ 3. บริษัทฯ ต้องนำเงินมัดจำค่าเช่า และเงินมัดจำค่าบริการตาม
สัญญาระยะยาวที่เรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บในลักษณะเป็นเงินก้อน เพื่อตอบแทนการให้เช่าทรัพย์สิน หรือ
การให้บริการทั้งจำนวนมาเสียภาษี ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 2 (1) (ก) แห่งคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.
73/2541 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการเรียกเก็บเงินจ่ายล่วงหน้า
เงินประกัน เงินมัดจำ หรือเงินจอง ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.74/2541 ฯ ลงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 เว้นแต่เงินมัดจำค่าเช่า
อสังหาริมทรัพย์ในกรณีดังต่อไปนี้ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ
(ก) โดยขนบธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจได้มีการเรียกเก็บเงินประกันหรือเงินมัดจำ
(ข) ต้องมีการคืนเงินประกัน หรือเงินมัดจำให้แก่ผู้เช่าทันทีที่สัญญาสิ้นสุดลงโดยไม่มี
เงื่อนไข แต่กรณีเกิดความเสียหาย ผู้ให้เช่ามีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้
(ค) เงินประกัน หรือเงินมัดจำที่เรียกเก็บต้องไม่เกิน 3-6 เท่าของค่าเช่ารายเดือน
และ
(ง) สัญญาให้เช่าทรัพย์สินมีอายุสัญญาไม่เกิน 3 ปี
ทั้งนี้ ตามข้อ 3 (2) แห่งคำสั่งกรมสรรพากรดังกล่าว
2. กรณีตาม 2. บริษัทฯ จะต้องนำเงินมัดจำค่าบริการทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับมารวม
คำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โดยถือว่าความรับผิดในการเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นในขณะได้รับชำระเงินดังกล่าว ตามมาตรา 78/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
ประกอบกับ ข้อ 2 (3) (ข) แห่งคำสั่งกรมสรรพากรดังกล่าว
สำหรับเงินมัดจำค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ได้
รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ต) แห่งประมวลรัษฎากร
3. กรณีตาม 4. หากบริษัทฯ มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งกรมสรรพากรดังกล่าวข้างต้น
เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินภาษีย้อนหลังได้ 2 ปี กล่าวคือ ประเมินภาษีได้ตั้งแต่ปี 2539
เป็นต้นไป

เลขตู้

: 61/27094

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161