ข้อหารือ | : บริษัทฯ ประกอบธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศเพียง อย่างเดียว โดยมีรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มต้นวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ใน งวดบัญชีประจำปี 2540 หลังจากที่บริษัทฯ ได้นำส่งงบการเงินและแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.50) ต่อกรมสรรพากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการตรวจสอบรายการบัญชีอีกครั้งหนึ่ง พบว่า บริษัทฯ มิได้ทำการปรับปรุงค่าหรือราคาของทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเงินตราไทย ณ วันสิ้นงวดตามที่ กำหนดไว้ในมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่งแห่งประมวลรัษฎากร โดยในงบการเงินยังคงบันทึกบัญชีไว้ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ณ วันที่เกิดรายการดังตัวอย่าง เช่น บัญชีเงินกู้ยืมระยะยาว ต่างประเทศ ซึ่งได้บันทึกไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 เป็นจำนวนเงิน 1,400,000 USD บริษัทฯ บันทึกบัญชีไว้เป็นจำนวนเงิน 35,280,000 บาท (คำนวณโดย 1,400,000 USD คูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการกู้ยืมในอัตรา 1 USD = 25.20 บาท) ที่ถูกต้องตาม มาตรฐานการบัญชีและตามประมวลรัษฎากรควรบันทึกเป็นจำนวนเงิน 66,578,400 บาท (คำนวณโดย 1,400,000 USD คูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 47.566 บาท) ดังนั้น ผลจากการปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้องจะทำให้เกิดบัญชีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 เป็นจำนวนเงิน 31,298,400 บาท ซึ่งบริษัทฯ ยังมิได้ดำเนินการปรับปรุง บัญชีแต่อย่างใดทั้งสิ้น จึงหารือดังต่อไปนี้ 1. ตามตัวอย่างเงินกู้ยืมดังกล่าวข้างต้นมียอดเงินคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 เป็นเงิน 1,400,000 USD มีงวดการชำระเงินต้นคืนทุก 6 เดือน เป็นเงินงวดละ 200,000 USD แต่ ในงวดบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 บริษัทฯ มิได้ปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง จึงขาดรายการบัญชีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นในงวดบัญชีดังกล่าว ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอทำการบันทึกบัญชีกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามงวดการชำระคืนเงินต้น ซึ่งจะ ถือปฏิบัติตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคสอง โดยจะขอยกเว้นการปฏิบัติตามเงื่อนไขในมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง สำหรับงวดบัญชีประจำปี 2540 จะได้หรือไม่ 2. หากคำขอในข้อ 1 มิได้รับการอนุมัติ แนวทางการแก้ไขให้ถูกต้องคือบริษัทฯ จะต้อง จัดการแก้ไขงบการเงินประจำปี 2540 ให้ถูกต้อง และส่งมอบให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทำการตรวจสอบ และลงนามรับรองงบการเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นร่วมกับแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.50) เพื่อยื่นขอแก้ไขเพิ่มเติมต่อกรมสรรพากร จะเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือไม่ 3. ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นตามข้อ 2 บริษัทฯ จะยัง สามารถใช้สิทธิเลือกปฏิบัติ โดยถือเป็นค่าใช้จ่ายตามกฎเกณฑ์ในการคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิเพื่อเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2540 ข้อ 2 และข้อ 3 จะยังคงได้รับสิทธิอยู่หรือไม่ |