ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/17583

วันที่

: 30 ธันวาคม 2541

เรื่อง

: ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีฐานภาษีที่ใช้ในการคำนวณสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65

ข้อหารือ

: 1. บริษัท ก. ใช้เกณฑ์เงินสดในการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งบริษัท ก. ได้รับเงินค่าขาย
จาก ปรส. เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2541 ตามรายละเอียดดังนี้
ราคาซื้อ 106.00 ล้านบาท
หัก จำนวนเงินหักครั้งที่ 1 (1.96) ล้านบาท
ราคาซื้อสุทธิ 104.04 ล้านบาท
หัก สำรองปรับปรุงเงินต้น (1.31) ล้านบาท
สำรองการชดใช้คืน (21.00) ล้านบาท
ค่าธรรมเนียมการขาย (1.06) ล้านบาท
ประมาณการค่าธรรมเนียมที่ปรึกษา (1.06) ล้านบาท
ยอดเงินจัดสรรสุทธิ 79.61 ล้านบาท
หมายเหตุ จำนวนเงินหักครั้งที่ 1 คือ จำนวนเงินต้นรับชำระโดยผู้ขาย (บริษัท ก.) ในช่วง 1
มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2541 ดังนั้น องค์การฯ ขอหารือว่า
ก. จำนวนเงินรับชำระที่จะนำไปคำนวณเสียภาษีควรเลือกใช้จากจำนวนใด ระหว่าง
ข้อ 1.1, 1.2 หรือ 1.3
1.1 เงินรับชำระ = ราคาซื้อ = 106.00 ล้านบาท
1.2 เงินรับชำระ = ราคาซื้อสุทธิ = 104.04 ล้านบาท
1.3 เงินรับชำระ = ราคาซื้อ-สำรองปรับปรุงเงินต้น-สำรองการชดใช้คืน
= 106.00 - 1.31 - 21.00 = 83.69 ล้านบาท
ข. ถ้าเลือกใช้กรณี 1.2 ภายหลังเมื่อบริษัท ก. ได้รับชำระเงินสำรองปรับปรุง
เงินต้น, สำรองการชดใช้คืน และได้รับใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาในเดือนใด จึงนำไปคำนวณเพื่อ
การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 15 วัน นับจากวันสิ้นเดือนที่ได้รับชำระ ใช่หรือไม่
2. เมื่อผู้ขายใช้เกณฑ์เงินสดในการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีรับชำระเงินจากผู้ซื้อจะต้อง
นำเงินที่ได้รับชำระมาเฉลี่ยตามสัดส่วนระหว่างจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยของลูกหนี้แต่ละราย แล้วนำ
ดอกเบี้ยที่เฉลี่ยได้ดังกล่าวมาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในเดือนภาษีที่ได้รับชำระเงิน ดังนั้น บริษัท ก. ควร
เลือกใช้ ยอดเงินต้นและดอกเบี้ย ณ วันใด เป็นฐานในการเฉลี่ย ระหว่างวันปิดบัญชี (วันที่ 31 พ.ค.
2541) กับวันปิดการจำหน่าย (วันที่ 1 ต.ค. 2541) เนื่องจากดอกเบี้ยที่ต้องนำไปเสียภาษีแต่ละงวด
ระยะเวลาแตกต่างกัน
31 พ.ค. 2541 1 ต.ค. 2541
(ล้านบาท) (ล้านบาท)
เงินต้นคงค้าง 223.00 220.00
ดอกเบี้ยคงค้าง 9.00 11.00
% ดบ.ที่จะต้องนำมาเสียภาษี 3.88 4.76
เงินรับงวดแรกจาก ปรส. (กรณีเลือกข้อ 1.1) 106.00 106.00
ดบ.ที่จะต้องนำมาเสียภาษีตามสัดส่วน 4.11 5.05
3. กรณีตาม 2. ดอกเบี้ยคงค้างที่จะนำมาเฉลี่ยเพื่อคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะนั้น ต้องนำ
ดอกเบี้ยในส่วนที่บริษัท ก. ได้หยุดรับรู้ (memo interest) มารวมคำนวณด้วยหรือไม่ เนื่องจากมี
ลูกค้าบางรายที่บริษัทหยุดรับรู้รายได้เหตุเพราะค้างชำระหนี้เกิน 6 เดือน ซึ่งบริษัทจะบันทึกไว้เป็น
memo interest ในการ์ดลูกหนี้รายตัวแทนการบันทึกบัญชี
31 พ.ค. 2541 % ดอกเบี้ยที่ จำนวนดอกเบี้ย
เสียภาษี เสียภาษี
(ล้านบาท) (ล้านบาท)
เงินรับงวดแรกจาก (ปรส.) 106.00
(กรณีเลือกข้อ 1.1)
เงินต้นคงค้าง 223.00
ดอกเบี้ยคงค้าง 9.00 3.88 4.11
ดอกเบี้ยคงค้าง + memo- interest 11.61 4.95 5.25
4. ตามหนังสือกรมสรรพากร เรื่อง การขยายกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการชำระภาษี
หรือนำส่งภาษีในทุกประเภทภาษีในส่วนของกรมสรรพากร โดยขยายเวลานำส่งภาษีออกไปอีก 2 เดือน
นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีหรือนำส่งภาษี ดังนั้น กรณีภาษีธุรกิจเฉพาะ บริษัท
ก. สามารถยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีภายใน 15 มกราคม 2542 ใช่หรือไม่ หากบริษัท ก. ได้รับ
เงินจากการขายสินเชื่อที่อยู่อาศัย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2541

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีตาม 1. จำนวนเงินรับชำระที่บริษัท ก. จะนำไปคำนวณเสียภาษีต้องใช้ราคาซื้อ
จำนวน 106.00 ล้านบาท ตาม 1.1 เนื่องจากถือเป็นเงินได้ที่บริษัท ก. ได้รับชำระทั้งสิ้น
2. กรณีตาม 2. การเฉลี่ยตามสัดส่วนระหว่างจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยของลูกหนี้แต่ละ
ราย บริษัท จ. จะต้องใช้ยอดเงินต้นและดอกเบี้ย ณ วันปิดการจำหน่าย (วันที่ 1 ตุลาคม 2541)
เนื่องจากถือเป็นวันที่ผู้ขายโอนบรรดาสิทธิทั้งหมดที่ตนมีตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อ
3. กรณีตาม 3. ดอกเบี้ยคงค้างที่จะนำมาเฉลี่ยเพื่อคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะตาม 2. นั้น
จะต้องนำดอกเบี้ยในส่วนที่บริษัท จะ ได้หยุดรับรู้รายได้ (memo interst) จนถึงวันปิดการจำหน่าย
มารวมคำนวณด้วย
4. กรณีตาม 4. หากบริษัท ก. ได้รับเงินจากการขายสินเชื่อที่อยู่อาศัยเมื่อวันที่ 5
ตุลาคม 2541 บริษัท ก. มีสิทธิยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีภายในวันที่ 15 มกราคม 2542

เลขตู้

: 61/27376

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161