ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/01766

วันที่

: 24 กุมภาพันธ์ 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย กรณีขายอสังหาริมทรัพย์

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 49 ทวิ

ข้อหารือ

: นาย ก. ได้ขายที่ดินให้การเคหะแห่งชาติ ซึ่งที่ดินดังกล่าว บิดาและมารดาของนาย ก.
ได้ร่วมกันซื้อมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ต่อมาบิดาถึงแก่ความตาย และได้ทำพินัยกรรมยก
ที่ดินในส่วนของบิดาให้นาย ก. และนาง ข. ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ดังนั้น
ที่ดินแปลงนี้จึงเท่ากับมารดาของนาย ก. ถือครองกรรมสิทธิ์ไว้ 2 ส่วน นาย ก. และพี่สาวถือกรรมสิทธิ์
ไว้คนละ 1 ส่วน ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 นาย ก. พี่สาว และมารดา ได้ขายที่ดินใน
ส่วนที่แต่ละคนมีกรรมสิทธิ์ให้แก่การเคหะแห่งชาติไป โดยมารดา และพี่สาว ได้มอบอำนาจให้นาย ก.
เป็นผู้มีอำนาจในการทำสัญญากับการเคหะฯ ที่ดินโฉนดดังกล่าวมีราคาประเมิน 68,960,000 บาท เมื่อ
คิดตามส่วนแห่งกรรมสิทธิ์จึงเท่ากับมารดา มีเงินได้ที่ต้องนำมาคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย 34,480,000
บาท ในส่วนของพี่สาวและนาย ก. มีเงินได้คนละ 17,240,000 บาท ซึ่งในกรณีนี้เจ้าพนักงานที่ดินได้
คำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ไว้ดังนี้ ส่วนของมารดาจำนวน 3,622.000 บาท ในส่วนของพี่สาวและ
นาย ก. คนละ 1,174,000 บาท รวมเป็นภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้ทั้งสิ้น 5,970,000 บาท จึงขอทราบว่า
กรณีที่เจ้าพนักงานที่ดินได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยวิธีแยกคำนวณตามส่วนแห่งกรรมสิทธิ์ในกรณีนี้
ถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

: กรณีข้อเท็จจริงดังกล่าว การที่เจ้าพนักงานที่ดินได้คำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยวิธี
แยกคำนวณตามส่วนแห่งกรรมสิทธิ์ของแต่ละคนโดยคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการ
จดทะเบียนโอนตามมาตรา 49 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยได้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในส่วน
ของนาย ก. และนาง ข. ไว้คนละ 1,174,000 บาท และในส่วนมารดา 3,622,000 บาท รวมหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้ทั้งสิ้น 5,970,000 บาท นั้น ถูกต้องแล้ว

เลขตู้

: 62/27576

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161