ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/02305

วันที่

: 12 มีนาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีขอคืนดอกเบี้ยภาษีอากรที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 3 เตรส, มาตรา 27 ตรี, กฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ. 2526)ฯ

ข้อหารือ

: บริษัท ก จำกัด ได้ยื่นคำร้องขอคืนภาษีอากร (ค.10) ประเภทภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ของรอบระยะเวลาบัญชี 2537-2539 ต่อสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2540
และวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 เนื่องจากในรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวบริษัทถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
จากเงินปันผล ค่าเช่าที่ดินและค่าเช่าโครงป้ายโฆษณา ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
จำนวนเงิน 77,058,554.24 บาท แต่เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีบริษัทฯ มีผลประกอบการขาดทุนทำให้
บริษัทฯ ไม่ต้องเสียภาษีและมีเครดิตภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ชำระไว้เกินเหลืออยู่ ต่อมา สำนักงานภาษี
สรรพากรพื้นที่ ได้ทำการตรวจก่อนคืนปรากฏว่า บริษัทฯ มีสิทธิได้รับคืนเงินจำนวน 76,275,010.88
บาท และมีหนังสือแจ้งคืนภาษีอากร (ค.20) ให้แก่บริษัทฯ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2541 ซึ่ง
เจ้าพนักงานได้ระบุในหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีอากรว่า เป็นการคืนเงินภาษีอากรประเภท "ภาษีนิติบุคคล
" และคำนวณดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ ในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนของจำนวนเงินภาษีที่บริษัทฯ มีสิทธิได้
รับคืน รวมดอกเบี้ยที่มีสิทธิได้รับตามหนังสือแจ้งคืนทั้งสิ้น 9,136,369.16 บาท เหตุที่เจ้าพนักงานใช้วิธี
คำนวณดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ ดังกล่าว ก็เนื่องมาจากเจ้าพนักงานเข้าใจว่า "ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย"
ตามที่บริษัทฯ ยื่นคำร้องขอคืนเป็นการขอคืนภาษีเงินได้ "นิติบุคคล" ตามแบบแสดงรายการ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ที่บริษัทฯ ได้ยื่นไว้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ขอคืน (2537 - 2539)
และเมื่อบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้อง ค.10 เพื่อขอคืนภาษีในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2537 และปี 2538 เมื่อ
วันที่ 23 มกราคม 2540 จึงต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2540 วันครบระยะเวลา 3
เดือน เป็นต้นไป ส่วนการขอคืนภาษีในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2539 บริษัทฯ ยื่นคำร้อง ค.10 เพื่อขอคืน
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 จึงต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป ตามข้อ
1 (2) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ. 2526)
แต่บริษัทฯ ไม่เห็นด้วยกับวิธีการคำนวณดอกเบี้ยของเจ้าพนักงานและเห็นว่าภาษีอากรใน
รอบระยะเวลาบัญชีปี 2537-2539 ที่ยื่นคำร้องขอคืนเอาไว้นั้น เป็นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่บริษัทฯ
ถูกผู้จ่ายเงินได้หัก ณ ที่จ่ายเอาไว้ มิใช่เป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่เจ้าพนักงานเข้าใจ ดังนั้น จึงเป็น
การคืน "เงินภาษีอากรที่บริษัทฯ ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย" ตามข้อ 1 (1) (ก) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่
161 (พ.ศ. 2526) ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้รับคืนเงินภาษีอากร ซึ่งต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วัน
ถัดจากวันครบระยะเวลา 3 เดือน นับแต่วันสิ้นกำหนดระยะเวลายื่นแบบแสดงรายการ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) และรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทฯ เป็นไปตามปฏิทิน (1 มกราคม
- 31 ธันวาคม) ซึ่งได้แก่วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปี ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอคืน (ค.10)
ภาษีที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ในรอบระยะเวลาบัญชี ปี 2537, 2538 และปี 2539 เจ้าพนักงานจึงต้อง
เริ่มคิดดอกเบี้ยให้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2538, 2539 และ 2540 เป็นต้นไปตามลำดับ และ
เจ้าพนักงานจะต้องคำนวณให้ถึงวันที่ที่ลงในหนังสือแจ้งคืนภาษีอากร (ค.20) ได้แก่วันที่ 15 กรกฎาคม
2541 และเมื่อคำนวณดอกเบี้ยให้ถูกต้องและเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายดังที่บริษัทฯ เข้าใจ จะเป็น
ดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 15,897,834.86 บาท แต่เจ้าพนักงานคำนวณดอกเบี้ยให้เพียง 9,136,389.16
บาท ดอกเบี้ยจึงขาดไปจำนวน 6,761,445.70 บาท จึงขอทราบว่า วิธีการคำนวณดอกเบี้ยของบริษัท
ถูกต้อง

แนววินิจฉัย

: กรณีดังกล่าวเป็นกรณีบริษัทฯ เสียภาษีไว้เกินจากการถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม
มาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ใช่กรณีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการยื่น
แบบแสดงรายการ (ภ.ง.ด.50) บริษัทฯ จึงมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยจากการคืนภาษีตั้งแต่วันถัดจากวันครบ
ระยะเวลาสามเดือนนับแต่วันสิ้นกำหนดระยะเวลายื่นแบบแสดงรายการตามแบบแสดงรายการ
(ภ.ง.ด.50) จนถึงวันที่ลงในหนังสือแจ้งคำสั่งคืนเงินภาษีอากร ทั้งนี้ ตาม ข้อ 1 (1) (ก) และ
วรรคท้ายของข้อ 1 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากร ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2526

เลขตู้

: 62/27641

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161