ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/02466

วันที่

: 18 มีนาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินได้ภายใต้โครงการเงินกู้ต่างประเทศให้แก่บริษัทซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและกฎหมายต่างประเทศ

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 9, มาตรา 40, มาตรา 52, มาตรา 66, มาตรา 69 ทวิ, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.
71/2541, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505

ข้อหารือ

: กรมอาชีวศึกษา ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเครื่องมือ-อุปกรณ์และบุคลากรในสถานศึกษา
สังกัดกรมอาชีวศึกษา ด้วยเงินกู้จากกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งญี่ปุ่น (OECF) และ
เงินบาทสมทบโดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2537 เป้าหมายหลัก
ประการหนึ่งในการดำเนินงาน คือ การจัดซื้อจัดหาเครื่องมือ-อุปกรณ์ ในการเรียนการสอนสาขาวิชา
ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ปิโตรเคมี เทคนิคการผลิต และอุตสาหกรรมการต่อเรือ ให้แก่ วิทยาลัยเทคนิค 20
แห่ง และสถาบันพัฒนาครูอาชีวศึกษาโดยวิธีประกวดราคานานาชาติ ตามข้อกำหนดของแหล่งเงินกู้ ขณะนี้
การประกวดราคาได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคู่สัญญาเป็นบริษัทจากประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐ
เยอรมัน ญี่ปุ่น และไทยในการจ่ายเงินค่าสินค้าให้แก่บริษัทคู่สัญญานั้น แหล่งเงินกู้ OECF เป็นผู้จ่ายด้วย
การเปิด Letter of Credit (L/C) กับธนาคารผ่านธนาคารโตเกียวมิตซูบิชิ ในประเทศญี่ปุ่น โดย
ความเห็นชอบของกรมอาชีวศึกษา จึงขอทราบว่า
1. กรณีที่คู่สัญญาเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย การจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการด้วย
เงินกู้โดยแหล่งเงินกู้เป็นผู้จ่ายเงินโดยตรง (เป็นเงินเยน) ให้แก่บริษัทนั้น จะต้องมีการหักภาษี ณ
ที่จ่ายหรือไม่ มีระเบียบวิธีปฏิบัติในการหักภาษีและการคิดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร
2. กรณีที่คู่สัญญาเป็นบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ ในส่วนของเงินกู้ที่จ่ายให้แก่บริษัทนั้น
จะต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ หักในอัตราเท่าใด และมีระเบียบวิธีปฏิบัติอย่างไร
3. ขณะนี้ กรมอาชีวศึกษาได้จ่ายเงินค่าสินค้าและบริการให้แก่บริษัทคู่สัญญาทั้งในและ
ต่างประเทศเป็นเงินเยนไปแล้วหลายงวด โดยมิได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แต่ประการใด เนื่องจากพิจารณา
เห็นว่า กรมอาชีวศึกษามิได้เป็นผู้จ่ายเงินโดยตรง ดังนั้น เพื่อความถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติของ
ทางราชการ หากต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย กรมอาชีวศึกษาจะต้องดำเนินการอย่างไร ในเรื่องการหักภาษี
ณ ที่จ่ายในแต่ละกรณีดังกล่าวข้างต้น

แนววินิจฉัย

: กรณีที่กรมอาชีวศึกษาจ่ายเงินค่าซื้อสินค้าให้กับบริษัทคู่สัญญา ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ถือ
เป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร จึงแยกพิจารณาได้ดังนี้
1. กรณีบริษัทคู่สัญญาเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย บริษัทมีหน้าที่ต้องเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อกรมอาชีวศึกษาจ่ายเงินได้ให้กับบริษัทจึง
มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ใน
กรณีที่กองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งญี่ปุ่น (OECF) เป็นผู้โอนเงินให้แก่บริษัทคู่สัญญาใน
ประเทศไทยโดยตรงเป็นเงินเยน ให้บริษัทคู่สัญญาคำนวณจำนวนเงินภาษีที่ผู้จ่ายเงินได้ต้องหักและนำส่ง
ในวันที่จ่ายเงินได้เป็นหน่วยเงินตราไทย โดยให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามอัตราอ้างอิง (อัตรา
ขายถัวเฉลี่ย) ประจำวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศไว้ เป็นอัตราแลกเปลี่ยนใน
การคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยของวันถัดไป ตามมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร
ประกอบกับข้อ 1 แห่งคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.71/2541 ฯ ลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2541 แล้วให้
บริษัทคู่สัญญานำเงินตราไทยในอัตราร้อยละ 1 ที่คำนวณได้มอบให้กรมอาชีวศึกษาเป็นค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย
เพื่อกรมอาชีวศึกษานำส่ง ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ต่อไป
2. กรณีบริษัทคู่สัญญาเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น และ
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน บริษัทผู้ขายได้ขายสินค้าโดยไม่ผ่านทางสถานประกอบการถาวรใน
ประเทศไทย บริษัทผู้ขายดังกล่าว ย่อมไม่อยู่ในข่ายจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยจากค่า
สินค้าที่ได้รับตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง แห่งอนุสัญญาระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นหรืออนุสัญญาระหว่าง
ประเทศไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนแล้วแต่กรณี และมาตรา 3 แห่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 ดังนั้น กรมอาชีวศึกษา ผู้จ่ายเงินได้จึงไม่มีหน้าที่ต้องหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด
3. กรมอาชีวศึกษาผู้จ่ายเงินได้ดังกล่าวแก่บริษัทซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายไทย ต้องหัก
ภาษีเงินได้และนำเงินภาษีที่หักไปส่ง ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือน
ที่จ่ายเงินได้ ไม่ว่าตนจะได้หักไว้แล้วหรือไม่ ตามมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 62/27646

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161