ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/02985

วันที่

: 31 มีนาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการขายที่ดินซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 81/2, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534, มาตรา 291 และ มาตรา 1025
และมาตรา 1356 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ข้อหารือ

: สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ แจ้งว่าได้รับโอนข้อมูลการขายอสังหาริมทรัพย์ราย นาง ก
กับพวกรวม 4 คน ซึ่งขายที่ดินจังหวัดปทุมธานี ราคาทุนทรัพย์ 44,734,000 บาท สำนักงานภาษี
สรรพากรพื้นที่ ได้ทำการไต่สวนตรวจสอบการเสียภาษีอากรของคณะบุคคลดังกล่าว ปรากฏว่า คณะบุคคล
ราย นาง ก กับพวก ได้ทำสัญญาซื้อที่ดินจากบุคคลอื่นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2534 โดยถือกรรมสิทธิ์ร่วม
กันเป็นส่วน ๆ คือ
นาง ก ถือกรรมสิทธิ์ 5,400.0 ส่วน
นาย ข ถือกรรมสิทธิ์ 2,834.5 ส่วน
นาง ค ถือกรรมสิทธิ์ 19,100.0 ส่วน
นาง ง ถือกรรมสิทธิ์ 17,400.0 ส่วน (ปัจจุบันถึงแก่กรรม)
ต่อมาคณะบุคคลดังกล่าวได้ทำสัญญาขายที่ดินดังกล่าวให้แก่ บริษัท เอ จำกัด และบริษัท บี จำกัด ไปเมื่อ
วันที่ 29 มิถุนายน 2535 เป็นเงิน 44,734,000 บาท และได้มีการแยกยื่นการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ตามส่วนของตน ณ สำนักงานสรรพากรอำเภอ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 ดังนี้
นาง ก จำนวน 166,496 บาท
นาย ข จำนวน 317,192 บาท
นาง ค จำนวน 1,121,922 บาท
รวมทั้งสิ้น 1,605,610 บาท
นาง ก กับพวก ได้นำสำเนาแบบแสดงรายการ ภ.ธ.40 และสำเนาใบเสร็จรับเงินดังกล่าวไปมอบให้
เจ้าพนักงานประเมินเพื่อประกอบการพิจารณา และได้แจ้งว่านาง ง ถึงแก่กรรมแล้วจึงไม่ได้ยื่นรายการ
และเสียภาษีธุรกิจเฉพาะสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ เห็นว่า การขายที่ดินดังกล่าวเข้าลักษณะเป็น
การขาย อสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามนัยมาตรา 81/2 (6)
แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรฯ (ฉบับที่ 244)พ.ศ. 2534 โดยต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในนามของคณะบุคคลฯ จึง
ขอทราบว่า ความเห็นของสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ ถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. ตามข้อเท็จจริง แม้จะได้มีการบรรยายส่วนการถือกรรมสิทธิ์ไว้ แต่หากไม่ได้
จดทะเบียนบรรยายถึงว่า ของใครอยู่ส่วนไหนเป็นจำนวนเนื้อที่เท่าใดชัดแจ้งแล้ว กรณีถือได้ว่าบุคคล
เหล่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม ตามมาตรา 1356 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบกับ
เมื่อตามข้อเท็จจริง บุคคลทั้งหมดได้ที่ดินดังกล่าวมาพร้อมกันและได้ขายให้กับผู้ซื้อซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันใน
เวลาพร้อมกันมิใช่แต่ละคนแบ่งแยกขายเฉพาะส่วนของตน กรณีถือได้ว่าบุคคลเหล่านั้นมีเจตนาร่วมลงทุน
ในการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าว จึงต้องเสียภาษีในนามห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนหรือ
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมแต่ละคนจะแยกยื่นเสียภาษีในนามของตนเองไม่ได้
2. ตามข้อเท็จจริง เมื่อนาง ก และพวก คือนาย ข และนาง ค ได้นำรายรับที่ได้จาก
การขายที่ดินตามส่วนที่ตนมีไปยื่นแบบ ภ.ธ.40 เพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในนามของแต่ละบุคคลแล้ว เข้า
ลักษณะเป็นการยื่นแบบแสดงรายการผิดหน่วยภาษี เนื่องจากในการเสียภาษีในนามของห้างหุ้นส่วนสามัญ
ไม่จดทะเบียนหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล บุคคลผู้เข้าร่วมในคณะบุคคลดังกล่าวต้องรับผิดร่วมกัน เพื่อหนี้
ทั้งปวงของห้างโดยไม่มีจำกัด ทั้งนี้ ตามมาตรา 1025 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น นาง
ก และพวกอีก 3 คนจึงต้องรับผิดร่วมกันในหนี้ภาษีอากรจากการขายที่ดินดังกล่าว โดยกรมสรรพากร
มีสิทธิจะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้แค่คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้
ทั้งปวงก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระเสร็จสิ้นเชิง ทั้งนี้ ตามมาตรา 291 แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

เลขตู้

: 62/27721

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161