ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/04265

วันที่

: 7 พฤษภาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการโอนและรับโอนหุ้น

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 40, มาตรา 65 ทวิ, มาตรา 66, มาตรา 70, มาตรา 76 ทวิ, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่
18) พ.ศ. 2505

ข้อหารือ

: บริษัท ก จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายพืชไร่และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง เนื่องจาก
บริษัทฯ ได้มีการลงทุนถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทที่มิได้จดทะเบียนใน
ตลาดหลักทรัพย์ ขอทราบว่า
1. กรณีบริษัทฯ ได้ลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัท A ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายไทย
และเป็นบริษัทที่มิได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในราคามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้ (Par Value) หุ้นละ
10 บาท ในขณะเดียวกันบริษัท A ก็ได้ไปลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัท B ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตาม
กฎหมายไทยอีกทอดหนึ่ง ในราคามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้ (Par Value) หุ้นละ 10 บาท ซึ่งขณะลงทุน
บริษัท B เป็นบริษัทที่มิได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่หลังจากมีการลงทุนไปแล้วระยะหนึ่ง บริษัท B
ได้นำหุ้นของตนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในปัจจุบันราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท B ใน
ตลาดหลักทรัพย์สูงกว่าราคามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้ (Par Value) ต่อมาบริษัทฯ มีความประสงค์
จะขายหุ้นของบริษัท A ดังกล่าวให้แก่บริษัทต่างประเทศซึ่งจดทะเบียนในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยหุ้น
ดังกล่าวไม่มีราคาขายให้กับประชาชนทั่วไป (Public Offering) บริษัทฯ เห็นว่า หากบริษัทฯ ขายหุ้น
ของบริษัท A ไปในราคาไม่ต่ำกว่าราคาทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งคำนวณโดยนำทรัพย์สินที่มีอยู่ตามงบดุลในปีที่ผ่าน
มาของบริษัท A ซึ่งผ่านการรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต มาหักด้วยหนี้สินทั้งหมด แล้วนำมาหารด้วย
จำนวนหุ้นที่จดทะเบียนไว้ โดยในงบดุลของบริษัท A ได้แสดงเงินลงทุนในหุ้นของบริษัท B ด้วยราคาทุน
ย่อมถือว่า บริษัทฯ ได้ขายหุ้นดังกล่าวไปในราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
2. กรณีบริษัทฯ จะลงทุนโดยการซื้อหุ้นบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดยรับซื้อหุ้นดังกล่าวจากบริษัทต่างประเทศซึ่งจดทะเบียนในประเทศเนเธอร์แลนด์ มิได้ประกอบกิจการ
ในประเทศไทยและมิได้มีสถานประกอบการ (Permanent Establishment) ในประเทศไทย ไม่ว่า
ในปัจจุบันและในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาก่อนการจำหน่ายหุ้นในบริษัท B บริษัทต่างประเทศดังกล่าว
เพียงแต่เข้ามาถือหุ้นในบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดย
บริษัทต่างประเทศดังกล่าว และบริษัทฯ มิได้มีความเกี่ยวพันและมิได้มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่ปรึกษาหรือ
บริษัทผู้รับทำงานให้ ต่อมาบริษัทต่างประเทศดังกล่าวได้เสนอขายหุ้นในบริษัท B ให้แก่บริษัทฯ เนื่องจาก
เป็นการซื้อขายหุ้นจำนวนมาก บริษัทฯ จึงได้ตกลงที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาด (ราคา
ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นราคาขายให้กับประชาชนทั่วไปในขณะที่ขาย) และหรือต่ำกว่าราคา
มูลค่าหุ้น (Par Value) หรือราคาทุนที่ซื้อมา บริษัทฯ เห็นว่า
2.1 กรณีบริษัทต่างประเทศดังกล่าว มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ได้ขายหุ้นใน
บริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้แก่บริษัทฯ การขายหุ้นดังกล่าว
ยังไม่ถือว่าบริษัทต่างประเทศดังกล่าวมีการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้ใน
ประเทศไทยจากกำไรสุทธิดังนั้น หากบริษัทต่างประเทศขายหุ้นให้แก่บริษัทฯ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด
และ/หรือ ต่ำกว่าราคามูลค่าหุ้น (Par Value) หรือราคาทุนที่ซื้อมา บริษัทต่างประเทศดังกล่าวสามารถ
กระทำได้โดยไม่เป็นการขัดต่อมาตรา 5 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร
2.2 หากการขายหุ้นของบริษัทต่างประเทศดังกล่าวมีกำไร (Capital gains) ก็จะ
ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทย ตามข้อ 14 ของความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่ง
ราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน บริษัทฯ จึง
ไม่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินค่าซื้อหุ้นดังกล่าวแต่ประการใด
2.3 กรณีที่บริษัทฯ รับโอนหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาดตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ใน
ขณะที่รับโอนหุ้นยังไม่ถือว่าบริษัทฯ มีรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการ จึงยังไม่ต้องนำมูลค่าหุ้นมา
คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีบริษัทฯ ได้ขายหุ้นของบริษัท A ซึ่งเป็นหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ให้แก่
บริษัทต่างประเทศซึ่งจดทะเบียนในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยหุ้นดังกล่าวไม่มีราคาขายให้กับประชาชน
ทั่วไปในขณะที่ขาย ดังนั้นหากบริษัทฯ ได้ถือเอามูลค่าหุ้นของบริษัท A ที่ขายโดยกำหนดจากมูลค่าทรัพย์สิน
สุทธิ (มูลค่าทรัพย์สินหักด้วยหนี้สินทั้งหมด) ตาม Book Value ของรอบระยะเวลาบัญชีก่อนปีที่จะขาย
หารด้วยจำนวนหุ้นที่ได้จดทะเบียนไว้ในแต่ละนิติบุคคลนั้น วิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่ชอบด้วยเหตุผล
ราคาหุ้นดังกล่าวจึงเป็นราคาที่มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร
2. ตามข้อ 2.1 กรณีบริษัทจดทะเบียนในประเทศเนเธอร์แลนด์ มิได้ประกอบกิจการใน
ประเทศไทยได้ขายหุ้นในบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้แก่บริษัทฯ กรณียังถือ
ไม่ได้ว่า บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศดังกล่าวประกอบกิจการในประเทศไทย ดังนั้น บริษัท
ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศดังกล่าว จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้จากกำไรสุทธิ
แต่ประการใด ทั้งนี้ ไม่เข้าตามลักษณะตามมาตรา 66 และมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และ
กรณีที่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศดังกล่าวได้ขายหุ้นให้แก่บริษัทฯ ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด
เจ้าพนักงานประเมินไม่มีอำนาจประเมินมูลค่าหุ้นที่ขายตามราคาตลาดตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
3. ตามข้อ 2.2 กรณีบริษัทฯ ได้จ่ายเงินค่าหุ้นให้แก่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศ
เนเธอร์แลนด์ โดยการขายหุ้นดังกล่าวมีผลประโยชน์ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุนตามมาตรา 40
(4) (ช) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร แต่
อย่างใด ทั้งนี้ ตามข้อ 14 แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง
ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากร ใน
ส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุนและมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ.
2505
4. ตามข้อ 2.3 กรณีบริษัทฯ ได้รับโอนหุ้นดังกล่าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ในขณะที่
รับโอนยังไม่ถือว่ามีรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการ จึงยังไม่ต้องนำมูลค่าหุ้นไม่ว่าในราคาทุนหรือ
ราคาตลาดมาคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่หากต่อไป บริษัทฯ ได้ขายหุ้นดังกล่าวไปในราคา
ต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินมูลค่าหุ้นดังกล่าวตาม
ราคาตลาดในวันที่โอน ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 62/27808

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161