ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ.05364

วันที่

: 8 มิถุนายน 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีค่าใช้คืนราคาสินค้าตามสัญญาให้เช่าซื้อและค่าขาดประโยชน์ตามคำพิพากษาของศาล

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65, มาตรา 65 ตรี, มาตรา 77/1, มาตรา 78/1, มาตรา 79, คำสั่งกรมสรรพากร ที่
ป.36/2536ฯ

ข้อหารือ

: บริษัท ก จำกัด ประกอบกิจการให้เช่าซื้อรถยนต์ ได้ทำสัญญาให้เช่าซื้อรถยนต์กระบะกับ
นาย ข ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2539 ในราคา 420,000 บาท กำหนดผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน
จำนวน 48 งวด เริ่มชำระงวดแรกในวันที่ 17 มิถุนายน 2539 แต่ผู้เช่าซื้อไม่ได้ชำระค่างวดเลย
บริษัทฯ จึงได้แจ้งเลิกสัญญาเป็นหนังสือไปยังผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2539 และ
ได้ฟ้องคดีต่อศาล เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2539 โดยศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2540
ให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน(จำเลยร่วม) ร่วมกันส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนบริษัทฯ หากคืนไม่ได้ให้ใช้
คืนราคารถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นเงิน 300,000 บาท และกำหนดให้ชำระค่าขาดประโยชน์แก่บริษัทฯ นับแต่
วันที่ผิดนัดจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 12,000 บาท และเป็นเดือน ๆ ละ 3,000 บาท นับแต่วันถัดจาก
วันฟ้องไปจนกว่าจะส่งมอบรถคืนบริษัทฯ ทั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลาเพียง 9 ปี
ขอทราบว่า
1. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จะถือจำนวนเงินตามคำพิพากษาเป็นรายได้ตามเกณฑ์
สิทธิ โดยรับรู้รายได้เป็นรายได้ค้างรับ เป็นจำนวนเท่าใด และสำหรับค่าขาดประโยชน์รายเดือน ๆ ละ
3,000 บาท เป็นเวลา 9 ปี บริษัทฯ จะรับรู้เป็นรายได้อย่างไร
2. กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากบริษัทฯ ยังไม่ได้รับเงินค่าขาดประโยชน์จำนวน 12,000
บาท ความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มยังไม่เกิดขึ้น บริษัทฯ จึงยังไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และสำหรับ
ค่าขาดประโยชน์รายเดือน ๆ ละ 3,000 บาท เป็นเวลา 9 ปี ความรับผิดภาษีมูลค่าเพิ่มจะเกิดขึ้น
เมื่อใด

แนววินิจฉัย

: 1. ค่าใช้คืนราคารถยนต์จำนวน 300,000 บาท กรณีจำเลยไม่อาจส่งมอบรถยนต์คันที่
เช่าซื้อคืนให้บริษัทฯ ได้
1.1 ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีตามข้อเท็จจริงบริษัทฯ ได้รับรู้รายได้ค่าเช่าซื้อรถยนต์
ในรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ. 2539 ตามเกณฑ์สิทธิ์ในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการให้เช่าซื้อตามมาตรา
65 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว เมื่อบริษัทฯ ได้ฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกเอาทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อคืน และศาล
ได้มีคำพิพากษาให้จำเลยฯ คืนรถยนต์คันที่เช่าซื้อหากคืนไม่ได้ก็ให้ใช้คืนราคารถยนต์จำนวน 300,000
บาท ค่าใช้คืนราคารถยนต์ดังกล่าวจึงถือเป็นหนี้ค่ารถยนต์ตามคำพิพากษา ให้บริษัทฯ นำมารับรู้เป็น
รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่จำเลยฯ ชำระค่าใช้คืนรถยนต์ ดังนี้
(ก) ถ้าค่าใช้คืนราคารถยนต์มีจำนวนมากกว่าจำนวนรายได้ที่บริษัทฯ ได้รับรู้เป็น
รายได้ไว้แล้ว ผลต่างดังกล่าวถือเป็นผลประโยชน์จากการขาย บริษัทฯ ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้
ในรอบระยะเวลาบัญชีที่จำเลยฯ ชำระค่าใช้คืนรถยนต์
(ข) ถ้าค่าใช้คืนราคารถยนต์มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนรายได้ที่บริษัทฯ ได้รับรู้เป็น
รายได้ไว้แล้ว ผลต่างดังกล่าวถือเป็นผลเสียหายอันเนื่องจากการประกอบกิจการบริษัทฯ ย่อมหักเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่จำเลยฯ ชำระค่าใช้คืนรถยนต์ ไม่ต้องห้ามตาม
มาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร
1.2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากบริษัทฯ ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อไปแล้ว ถ้าจำเลยฯ คืน
รถยนต์คันที่เช่าซื้อให้บริษัทฯ ไม่ได้ และได้ใช้คืนราคารถยนต์ตามคำพิพากษาแทนเงินจำนวนนี้จึงมิใช่
ค่าเช่าซื้อรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อ แต่ถือเป็นค่าตอบแทนที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าตามมาตรา
79 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อจำนวนเงินตามคำพิพากษาของศาลมีจำนวนไม่เกินกว่ามูลค่าสินค้าที่
เหลืออยู่ตามสัญญาให้เช่าซื้อ บริษัทฯ มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามจำนวนที่ได้รับในเดือนภาษีที่ได้รับเงิน
นั้น ทั้งนี้ ตามข้อ 4 (4) (ก)ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 ฯ ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2536
2. ค่าขาดประโยชน์นับตั้งแต่วันผิดนัดวันที่ 17 มิถุนายน 2539 ถึงวันฟ้องวันที่ 7
พฤศจิกายน 2539 จำนวน 12,000 บาท และค่าขาดประโยชน์นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะส่งรถยนต์คืน
เดือนละ 3,000 บาท แต่มีระยะเวลาเพียง 9 ปีนั้น 2.1 ภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากศาลได้กำหนด
ค่าขาดประโยชน์ที่เกิดจากการใช้ทรัพย์ตลอดเวลาที่จำเลยยังครอบครองรถยนต์อยู่จนกว่าจะส่งคืนให้
บริษัทฯ จึงถือเป็นหนี้ค่าตอบแทนการใช้ทรัพย์สินตามคำพิพากษา ซึ่งมิใช่รายได้ค่าเช่าซื้อที่บริษัทฯ ได้รับรู้
เป็นรายได้ไปแล้ว บริษัทฯ จึงต้องนำมารับรู้เป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่จำเลยฯ ชำระ
ค่าขาดประโยชน์นั้น 2.2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขาดประโยชน์ถือเป็นค่าบริการที่ได้รับจากการให้บริการ
ตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ต้องนำเงินค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวมารวม
คำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อได้รับชำระค่าขาดประโยชน์นั้นตามมาตรา 78/1 (1) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามข้อ 4 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 ฯ ลงวันที่ 15
พฤศจิกายน พ.ศ.2536

เลขตู้

: 62/27880

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161