ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/07770

วันที่

: 3 สิงหาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่คืนหรือลดภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้บริโภค

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 77/1(10), มาตรา 78

ข้อหารือ

: ตามที่นาย ก. ได้มีหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการโทรศัพท์
เคลื่อนที่ของ บริษัท A จำกัด (มหาชน) (หรือบริษัท AIS) ไม่คืนหรือลดภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้บริโภค
โดยบริษัทฯ ยังคงเรียกเก็บภาษีในอัตราเดิมคือร้อยละ 10 สำหรับค่าบริการที่ชำระตั้งแต่วันที่ 1
เมษายน 2542 และท่านได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัท AIS ได้รับคำชี้แจงว่า บริษัทฯ จำเป็น
ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10 แม้ว่าจะได้ชำระค่าบริการหลังวันที่ 1 เมษายน 2542
เพราะบริษัทฯ ได้ออกใบกำกับภาษีล่วงหน้าไว้แล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2542 อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในขณะ
นั้นยังคงเป็นร้อยละ 10 บริษัทฯ จึงต้องเก็บเงินจากลูกค้าตามนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งนาย ก.
เห็นว่าคำชี้แจงของบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยเหตุผลเนื่องจากการที่บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีล่วงหน้า หรือได้มี
การชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ใช้บริการไปแล้วในอัตราร้อยละ 10 เป็นการกระทำของบริษัทฯ เองท่าน
ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องด้วย ท่านมีหน้าที่ที่จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่กฎหมายกำหนดในวันชำระ
ค่าบริการ คือ ร้อยละ 7 เท่านั้น หากต้องมีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษี (ร้อยละ 10)
ส่วนที่เกินจากร้อยละ 7 ต้องเป็นหน้าที่ของบริษัทฯ รับภาระเองมิใช่ผลักภาระให้ผู้ใช้บริการ จึงหารือว่า
1.1 การออกใบกำกับภาษีล่วงหน้าก่อนที่จะมีการชำระเงินจากผู้ใช้บริการ หรือการที่
บริษัทฯชำระภาษีมูลค่าเพิ่มไปก่อนแล้วเรียกเก็บจากลูกค้าภายหลังนั้น บริษัทฯ ทำได้หรือไม่
1.2 กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีนี้เท่าใด
1.3 หากกรมสรรพากรจำเป็นต้องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบแจ้งหนี้ในอัตราร้อยละ
10 ตามที่บริษัทฯ กล่าวอ้าง ภาษีในส่วนที่เกินร้อยละ 7 บริษัทฯ ต้องเป็นผู้รับภาระใช่หรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. มาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลด
อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 353) พ.ศ. 2542 ได้กำหนดให้ใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7.0
สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2544 ดังนั้น ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับ
บริการซึ่งได้รับใบกำกับภาษีที่ออกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544 จึงต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0
การให้เช่าเลขหมายประจำเดือนและการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท AIS ตาม
ข้อเท็จจริงข้างต้น เข้าลักษณะเป็น "การให้บริการ" ตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการจึงเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ เว้นแต่กรณีที่มี
การออกใบกำกับภาษีหรือได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น ก็ให้ถือว่าความรับผิดในการเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้น ๆ ด้วย ทั้งนี้ ตามมาตรา 78/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
กรณีบริษัทฯ AIS ออกใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2542 ซึ่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 353) พ.ศ. 2542 ยังไม่มีผลใช้บังคับ
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจึงเกิดขึ้นเมื่อวันที่บริษัทฯ ออกใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี บริษัทฯ ต้อง
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 จากผู้ใช้บริการ และต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 เพื่อเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 ในเดือนภาษีที่ความรับผิดเกิดขึ้น แม้ว่าบริษัทฯ จะยังไม่ได้รับชำระ
ค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ใช้บริการก็ตาม และเมื่อผู้ใช้บริการนำเงินมาชำระไม่ว่าก่อนหรือหลัง
วันที่ 1 เมษายน 2542 บริษัทฯ มีสิทธิเรียกเก็บเงินค่าภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 ของ
ค่าบริการตามมูลหนี้ในใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษีที่ได้ออกไปล่วงหน้าแล้วนั้น ดังนั้น การออกใบกำกับภาษี
ก่อนที่จะมีการชำระเงินจากผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จึงมีสิทธิที่จะทำได้ตามกฎหมาย
2. กรณีตามข้อเท็จจริง ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1
เมษายน 2542 ดังนั้น กรมสรรพากรจึงเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการจดทะเบียนในอัตราร้อยละ
10.0
3. ภาษีขายในส่วนที่เกินกว่าร้อยละ 7.0 บริษัทฯ มีสิทธิที่จะเรียกเก็บจากนาย ก. ได้
ทั้งนี้ ตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร กรณีที่บริษัทฯ จะรับภาระดังกล่าวไว้เองหรือจะเรียบเก็บ
เพิ่มเติมจากท่านย่อมเป็นสิทธิของบริษัทฯ ที่จะทำความตกลงกับท่าน

เลขตู้

: 62/28124

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161