ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/08696

วันที่

: 24 สิงหาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีธุรกิจเฉพาะ การขายอสังหาริมทรัพย์

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 91/2(6)

ข้อหารือ

: นาย ก. ได้ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 47249 เนื้อที่ 1 งาน 13 ตารางวา แขวงตลาดบางเขน
เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2532 นาย ก. และเพื่อนอีก 2 คน คือ นาย ข.
และ นาย ค. ซึ่งมีที่ดินในบริเวณเดียวกันมีความประสงค์ก่อสร้างอาคาร 3 ชั้น ลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์
คนละ 2 หลัง ให้มีลักษณะเหมือนกัน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันขออนุญาตก่อสร้าง
อาคาร จำนวน 6 หลัง และได้รับอนุญาตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2534 ใบอนุญาตใช้ได้จนถึงเดือน
กรกฎาคม 2535 เนื่องจากที่ดินมีลักษณะเป็นตัวอักษร L ที่ดินของ นาย ก. ติดกับ นาย ค. เป็นรูป
เฉียง ไม่อาจก่อสร้างอาคารได้ จึงต้องตัดที่ดินให้เป็นเส้นตรงที่ดินส่วนที่เกินจำนวน 3 ตารางวา ให้
นาย ค. ถือกรรมสิทธิรวมเฉพาะส่วน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2534 และแบ่งกรรมสิทธิรวมให้ นาย ค.
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2537 ที่ดินของ นาย ก. จึงเหลือ 1 งาน 10 ตารางวา
ทั้ง 3 คนได้ร่วมกันขอทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านปลูกใหม่ ตามคำร้องที่ 346 ลงวันที่ 2
เมษายน 2535 ได้เลขที่บ้าน 122/75 - 122/80 ทั้ง 3 คน ไม่ได้ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน บ้านทั้ง 2
หลัง ของ นาย ก. ปลูกสร้างเสร็จไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2535 ตามที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2538 นาย ก. ได้แบ่งแยกที่ดินโฉนดที่ซื้อมาในนามเดิม เป็น 2
โฉนด คือโฉนดเลขที่ 2681 เนื้อที่ 58 ตารางวา และโฉนดเลขที่ 5488 เนื้อที่ 52 ตารางวา
เป็นเหตุให้บ้านทั้ง 2 หลัง ที่ปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเดียว ถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 โฉนด ๆ ละ 1 หลัง
นาย ก. ได้อยู่อาศัยในบ้านที่ปลูกสร้างทั้ง 2 หลัง ตลอดมาจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2541 จึงได้ขาย
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทั้ง 2 โฉนด ให้กับ นาย ง. แต่เมื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ณ
สำนักงานที่ดินสาขาดอนเมืองเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินได้ให้ นาย ง. โอนกรรมสิทธิ์เฉพาะที่ดินไปก่อน
ทั้งนี้ เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นมีชื่อของบุคคลอื่นขออนุญาตก่อสร้างร่วมกับ นาย ก. อยู่ด้วย จึง
จำเป็นต้องทำการประกาศในที่เปิดเผยเป็นเวลา 30 วัน ตามกฎหมายที่ดินเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีผู้คัดค้านใน
การโอน ต่อมาเมื่อครบกำหนด 30 วัน ตามประกาศ ไม่ปรากฏว่ามีผู้คัดค้านในการโอนกรรมสิทธิ์ จึงได้
ติดต่อกับสำนักงานที่ดินฯ เพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินฯ ได้
แจ้งให้ทราบว่าในการโอนกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินครั้งนี้ นาย ก.จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จึง
จะทำการโอนได้ จึงหารือว่าการที่ นาย ก. ซึ่งเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ ทั้งที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างมา
เกินกว่า 5 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในการโอนกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินหรือไม่
เห็นว่า นาย ก. ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างมาตั้งแต่เมื่อได้ขออนุญาตปลูกสร้าง
อาคารเมื่อเดือนกรกฎาคม 2534 ดังนั้น หากปัจจุบัน นาย ก. จะจดทะเบียนขายอาคารดังกล่าว จึง
มิได้เป็นการกระทำภายในห้าปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามมาตรา 4 (6) แห่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ไม่ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น
การค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีธุรกิจเฉพาะ

แนววินิจฉัย

: กรณีดังกล่าวผู้ขายได้ที่ดินจากการซื้อมาก่อน ต่อมาผู้ขายได้สิ่งปลูกสร้างมาในภายหลัง ถือ
ได้ว่าผู้ขายได้สิ่งปลูกสร้างมาไม่พร้อมกับที่ดิน และแยกทำนิติกรรมสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างหาก
จากกัน กรณีขายสิ่งปลูกสร้าง ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย ก ได้ก่อสร้างอาคารทั้ง 2 หลัง ในเดือน
กรกฎาคม 2534 ก่อสร้างอาคารเสร็จไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2535 ตามที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างและ
ได้ขายอาคารทั้ง 2 หลัง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2541 จึงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำเกิน
5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ ไม่ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร ไม่
อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา
4 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 แต่อย่างใด

เลขตู้

: 62/28218

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161