ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/09005

วันที่

: 30 สิงหาคม 2542

เรื่อง

: การเสียภาษีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในส่วนของงานตามหลักศาสนาอิสลาม

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 39, มาตรา 50(2), มาตรา 69 ทวิ, มาตรา 91/3

ข้อหารือ

: ธนาคารเป็นสถาบันการเงินของรัฐจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 ในปี 2542 ธนาคารจะเปิดดำเนินงาน
สถาบันการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม โดยเป็นส่วนงานหนึ่งของธนาคาร ซึ่งจะมีทั้งการรับฝากเงินและ
การให้สินเชื่อ การรับฝากเงินจะไม่จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝาก แต่จะตอบแทนผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์เป็น
เงินจำนวนหนึ่งตามธนาคารจะกำหนด เมื่อผลการดำเนินงานมีกำไร สำหรับผู้ฝากที่ประสงค์จะได้ผล
ตอบแทนจากการที่ธนาคารนำเงินฝากไปหาประโยชน์จะเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุนภายใต้ข้อตกลง
แบ่งปันผลกำไร ซึ่งหากเงินที่ฝากมีกำไรจากการที่ธนาคารนำไปลงทุนก็จะแบ่งผลกำไรคืนให้กับผู้ฝากตาม
ข้อตกลง
สำหรับการให้สินเชื่อนั้น ธนาคารจะให้บริการด้านการเงินภายใต้ข้อตกลงตามหลักศาสนา
อิสลาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าในการจัดหาเงินทุน ปุ๋ย ยาและวัสดุอุปกรณ์การเกษตร โดย
ดำเนินการภายใต้ข้อตกลง ดังนี้
1. การผ่อนชำระธนาคารจัดซื้อปัจจัยการผลิตให้แก่ลูกค้าตามที่ลูกค้ายื่นคำขอไว้ แล้วให้
ลูกค้าซื้อจาก ธนาคาร โดยผ่อนชำระตามระยะเวลาที่ตกลงกัน
2. การเช่าซื้อธนาคารจัดซื้อทรัพย์สินตามที่ลูกค้ายื่นคำขอไว้ แล้วให้ลูกค้าเช่าซื้อทรัพย์สิน
นั้นจาก ธนาคาร
3. การเข้าลงทุนในโครงการและการร่วมลงทุน ธนาคารนำเงินฝากไปลงทุนแล้วแบ่ง
กำไร กับผู้ประกอบการตามที่ตกลงกัน
ธนาคารเห็นว่าการเปิดดำเนินกิจการสถาบันการเงินภายใต้หลักศาสนาอิสลาม ธนาคารได้
รับยกเว้นภาษีอากร ดังนี้
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการดำเนินกิจการ ตามพระราชบัญญัติ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509
2. ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร มาตรา 91/3 แห่งประมวลรัษฎากร
3. ภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการตามมาตรา 77/3 แห่ง
ประมวลรัษฎากร
สำหรับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เมื่อจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ฝากนั้น เนื่องจากมิใช่เงินได้
ประเภทดอกเบี้ยเงินฝากแต่เป็นเงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้ฝากเมื่อมีกำไร ดังนั้น ธนาคารจึงต้องหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้ร้อยละ 10 กรณีจ่ายให้แก่บุคคลธรรมดาตามประมวลรัษฎากร มาตรา 50 (2)
แห่งประมวลรัษฎากร และร้อยละ 1 กรณีจ่ายให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

แนววินิจฉัย

: 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคลเก็บจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่ง
ประมวลรัษฎากรแต่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีฐานะเป็นนิติบุคคลมาตรา 5 แห่ง
พระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 จึงไม่อยู่ในข่ายจะต้องเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
2. กิจการที่อยู่ในข่ายเสียภาษีธุรกิจเฉพาะธนาคารได้รับยกเว้น ตามมาตรา 91/3 แห่ง
ประมวลรัษฎากร
3. กิจการให้เช่าซื้อทรัพย์สินเป็นกิจการที่อยู่ในข่ายเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ธนาคาร จะต้อง
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด
4. ในส่วนของเงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้ฝากเงินกับธนาคารในส่วนของกิจการ ตามหลัก
ศาสนาอิสลามนั้น เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลไม่ได้เกิดจากการถือหุ้นหรือเข้าเป็นหุ้นส่วนแม้จะจ่ายให้แก่
ผู้ฝากเงินต่อเมื่อมีกำไร ก็ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินปันผลแต่เข้าลักษณะเป็นดอกเบี้ย เนื่องจากเป็น
การคำนวณจ่ายจากเงินฝากฉะนั้นเมื่อธนาคารจ่ายให้แก่บุคคลธรรมดาต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา
ร้อยละ 15 ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีจ่ายให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะ
ต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 62/28251

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161