ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/09038

วันที่

: 31 สิงหาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 69 ทวิ, มาตรา 80/1(4)

ข้อหารือ

: หารือเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษี
มูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 353) พ.ศ. 2542 ปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิมซึ่งจัดเก็บในอัตราร้อยละ
10.0 เป็นอัตราร้อยละ 7.0 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544 และจัดเก็บใน
อัตราร้อยละ 10.0 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2544 เป็นต้นไป โดยแจ้งว่า กรมการปกครองได้รับ
งบประมาณโครงการลงทุนเพื่อสังคม ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้มาจากเงินกู้ธนาคารโลก 90%
และเงินงบประมาณ 10% สำหรับโครงการเงินกู้ได้คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 และส่วนที่ใช้
เงินงบประมาณ ซึ่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ดำเนินการ ดังนี้
1. ทำสัญญากับผู้รับจ้างก่อนวันที่ 1 เมษายน 2542 และจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างหลังวันที่ 1
เมษายน 2542
2. ประกาศสอบราคาก่อนวันที่ 1 เมษายน 2542 และทำสัญญาจ้างหลังวันที่ 1 เมษายน
2542
3. ประกาศสอบราคาและทำสัญญาหลังวันที่ 1 เมษายน 2542
จึงหารือว่า ส่วนราชการที่จ่ายเงินจะต้องคำนวณอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย ให้กับผู้รับจ้างอย่างไร พร้อมทั้งได้แนบตัวอย่างการคำนวณภาษีไปประกอบการพิจารณา

แนววินิจฉัย

: การชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนด้วยเงินกู้ธนาคารโลก ตาม
มาตรการโครงการลงทุนเพื่อสังคม เข้าลักษณะเป็นการชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ 1 ของ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขการขายสินค้าหรือการให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ
ตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ตามมาตรา 80/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากร
ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535 หากกรมการปกครองซึ่งเป็นส่วนราชการได้ออกหนังสือรับรองที่มี
รายการครบถ้วนตามข้อ 2 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะ
ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับ
การชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนด้วยเงินงบประมาณนั้น เนื่องจาก
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 353)
พ.ศ. 2542 ปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิม ซึ่งจัดเก็บในอัตราร้อยละ 10.0 เป็นอัตราร้อยละ
7.0 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544 และจัดเก็บในอัตราร้อยละ 10.0 ตั้งแต่
วันที่ 1 เมษายน 2544 เป็นต้นไป จึงเป็นผลให้การขายสินค้า การให้บริการหรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่ง
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544
ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0
สัญญาให้บริการกับกรมการปกครองตามข้อเท็จจริงที่ได้สอบราคา หรือทำสัญญาก่อนวันที่ 1
เมษายน 2542 โดยได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 ไว้ในราคาค่าบริการ และเป็นกรณีที่
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544
กรมการปกครองต้องจ่ายค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณในอัตราร้อยละ 7.0 โดยคำนวณมูลค่างาน
และภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่ เนื่องจากราคาค่าบริการที่สอบราคาหรือทำสัญญาก่อนวันที่ 1 เมษายน 2542
เป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้วเท่ากับสิบส่วนในหนึ่งร้อยสิบส่วน สำหรับกรณีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ให้ส่วนราชการผู้จ่ายค่าบริการให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายไทย มี
หน้าที่คำนวณหักภาษีณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1 ของราคาค่าบริการโดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม
มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
กรณีที่ได้สอบราคาและทำสัญญาให้บริการกับกรมการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542
โดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 ไว้ในราคาค่าบริการ ราคาค่าบริการตามสัญญาจึงเป็นราคา
รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้วเท่ากับเจ็ดส่วนในหนึ่งร้อยเจ็ดส่วน ตามอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่แล้ว สำหรับ
กรณีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้ส่วนราชการผู้จ่ายค่าบริการให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่ง
จดทะเบียนตามกฎหมายไทย คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 1 ของราคาค่าบริการโดยไม่รวม
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 62/28258

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161