ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/10786

วันที่

: 19 ตุลาคม 2542

เรื่อง

: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย กรณีเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อกฎหมาย

: มาตรา27, มาตรา54

ข้อหารือ

: นางสาว ก ได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขายที่ดิน ให้แก่นาย ข กับพวกรวม 9 คน
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2535 ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินได้จดทะเบียนให้แล้ว จากการตรวจสอบปรากฏว่า
เรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และนำส่งไม่ครบถ้วน สรรพากรพื้นที่ ได้มีหนังสือเชิญพบและให้
นางสาว ก ไปชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเงิน 2,527,138 บาท และเงินเพิ่ม
1,175,119.17 บาท (เงินเพิ่มคำนวณจากเดือนกุมภาพันธ์ 2535 ถึง 31 สิงหาคม 2537) ปรากฏว่า
นางสาว ก ได้มาพบเจ้าพนักงานฯ และยินยอมชำระภาษีดังกล่าว แต่ได้นำเงินภาษีจำนวน 2,527,138
บาท ไปชำระ ณ สำนักงานที่ดิน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2537 พร้อมทั้งยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ในวันเดียว
กัน แต่ไม่มีเงินเรียกเก็บ แต่ในส่วนของเงินเพิ่ม นางสาว ก แจ้งว่า เกิดจากการคำนวณภาษีไม่ถูกต้อง
ของเจ้าพนักงานที่ดิน ตนจึงไม่ควรต้องรับผิดในส่วนของเงินเพิ่ม สรรพากรพื้นที่ จึงขอหารือว่า
(1) นางสาว ก ในฐานะผู้มีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ได้ชำระภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย และนำส่งไม่ครบถ้วน จำนวน 2,527,138 บาท ณ สำนักงานที่ดิน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2537
แล้ว นางสาว ก จึงพ้นความรับผิดตามมาตรา 54 แห่งประมวลรัษฎากร ในส่วนของภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย และนำส่งไม่ครบถ้วนดังกล่าว ถูกต้องหรือไม่
(2) นาย ข กับพวกรวม 9 คน ต้องรับผิดในเงินเพิ่มภาษี จำนวน 1,175,119.17 บาท
(คำนวณจากเดือนกุมภาพันธ์ 2535 ถึง 31 สิงหาคม 2537) แต่เพียงฝ่ายเดียว ตามมาตรา 27 แห่ง
ประมวลรัษฎากร เนื่องจากผู้จ่ายเงินได้เป็นผู้มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่าย และนำส่งเงินภาษี ถูกต้องหรือไม่
(3) เจ้าพนักงานควรดำเนินการเรียกเก็บเงินเพิ่มภาษีดังกล่าว โดยออกหมายเรียก
ผู้จ่ายเงินได้ตามมาตรา 19 หรือมาตรา 23 แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี ถูกต้องหรือไม่
สรรพากรภาคเห็นว่า
1. การที่นางสาว ก ในฐานะผู้มีเงินได้ ได้ชำระเงินภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายและนำส่งไม่
ครบถ้วนเป็นเงิน 2,527,138 บาท ณ สำนักงานที่ดินแล้ว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2537 นางสาว ก
จึงหลุดพ้นความรับผิดเฉพาะในส่วนของภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แต่ยังไม่หลุดพ้นความรับผิดในส่วนของ
เงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
2. นาย ก กับพวกรวม 9 คน ต้องรับผิดเฉพาะเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่ง
ประมวลรัษฎากร จำนวน 1,175,119.17 บาท หรือไม่ จะต้องดูว่าการชำระภาษีตามข้อ 1 ถือว่า
ถูกต้องหรือไม่ หากถือว่าถูกต้องผู้จ่ายเงินได้ก็คงรับผิดเฉพาะเงินเพิ่มตามจำนวนดังกล่าว แต่ถ้าหากการ
ชำระภาษีตามข้อ 1 ถือว่าไม่ถูกต้อง ผู้จ่ายเงินได้จะต้องรับผิดทั้งเงินภาษีที่ยังมิได้หักและนำส่ง พร้อมทั้ง
เงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร โดยกรมสรรพากร ได้วางแนวปฏิบัติไว้ดังนี้
(1) ให้เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีจากผู้จ่ายเงินก่อน เนื่องจากผู้จ่ายเงินมี
หน้าที่ต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 54 แห่งประมวลรัษฎากร
(2) หากเจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บจากผู้จ่ายเงินไม่ได้ ให้เรียกเก็บจาก
ผู้มีเงินได้ ซึ่งหากผู้มีเงินได้ยินยอมชำระภาษีดังกล่าว ก็ให้รับชำระภาษีโดยแบบ ภ.ง.ด.3 หรือ
ภ.ง.ด.53 แล้วแต่กรณี แต่ถ้าผู้มีเงินได้ไม่ยินยอมชำระภาษีนั้นให้เจ้าพนักงานประเมินดำเนินการดังนี้
(ก) กรณีก่อนกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการ ให้เจ้าพนักงานประเมินใช้
อำนาจประเมินภาษีตามมาตรา 18 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
(ข) กรณีพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการ ให้เจ้าพนักงานประเมินใช้อำนาจ
ตามมาตรา 19 หรือมาตรา 23 แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี ออกหมายเรียกผู้มีเงินได้มาทำ
การตรวจสอบไต่สวนและทำการประเมินต่อไป
จึงหารือว่า ความเห็นของสรรพากรภาคถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีตามข้อ 1 เมื่อนางสาว ก ได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากการจดทะเบียนโอน
ขาย อสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2535 ไม่ครบถ้วน ได้ไปชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
เพิ่มเติมส่วนที่ขาดไป แต่ไม่ชำระเงินเพิ่ม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2537 ณ สำนักงานที่ดิน โดยได้รับ
ใบเสร็จรับเงินในราชการ กรมที่ดิน นางสาว ก จึงหลุดพ้นไม่ต้องรับผิดเฉพาะตัวภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย แต่ยังคงต้องรับผิดในส่วนของเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร ตามความเห็นของ
สรรพากรภาค ถูกต้องแล้ว
2. กรณีตามข้อ 2. เมื่อนางสาว ก ได้ชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ครบถ้วนแล้ว นาย ข
กับพวกรวม 9 คน จึงไม่ต้องรับผิดสำหรับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ในส่วนที่ขาดนั้นอีก แต่ยังคงร่วมกัน
รับผิดในส่วนของเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร กับนางสาว ก ตามมาตรา 54 แห่ง
ประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 62/28421

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161