ข้อหารือ | : สำนักงานสรรพากรภาคหารือกรณีบริษัท ส. จำกัด มีหนังสือขอให้กรมสรรพากรอนุมัติให้ บริษัทฯแก้ไขรายการในแบบ ภ.พ.30 เดือนตุลาคม 2540 ที่ได้ยื่นไปแล้ว เพื่อบริษัทฯ จะได้มีสิทธินำ ภาษีที่ชำระไว้เกินไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไปซึ่งสำนักงานสรรพากรภาคมีความเห็นว่า ควร อนุมัติตามคำขอของบริษัทฯ ดังมีรายละเอียดดังนี้ 1. บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.30 เดือนตุลาคม 2540 โดยลงลายมือชื่อในแบบฯ เพื่อขอคืน ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินสด จำนวน 11,278,010.79 บาท แต่ได้นำไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือน พฤศจิกายน 2540 ด้วย 2. บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.30 เดือนพฤศจิกายน 2540 เดือนธันวาคม 2540 เดือน มกราคม 2541 และเดือนกุมภาพันธ์ 2541 โดยไม่ได้ลงลายมือชื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินสด แต่มี ความประสงค์นำไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไป 3. สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ได้มีหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.72.1) สำหรับเดือนตุลาคม 2540 จำนวน 11,278,010.79 บาท 4. ต่อมาสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ได้มีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.73.1) สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2540 โดยประเมินภาษีจากยอดเงินภาษีที่ชำระไว้เกินเดือน ตุลาคม 2540 จำนวน 11,278,010.79 บาทพร้อมทั้งเงินเพิ่มจำนวน 338,340.32 บาท รวมเป็น เงิน 11,616,351.11 บาท เนื่องจากขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินสดแล้ว จึงไม่มีสิทธินำไปใช้ ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนพฤศจิกายน 2540 และได้หมายเหตุว่า ให้บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีชำระไว้เกิน ของเดือนพฤศจิกายน 2540 ไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเดือนธันวาคม 2540 ได้ 5. บริษัทฯ ยื่นอุทธรณ์การประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยดังนี้ (1) ให้ปลดภาษีตามการประเมิน โดยมีเหตุผลว่า การนำภาษีชำระเกินยกมา ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มสูงเกินความเป็นจริง ส่วนต่างดังกล่าวไม่ใช่การคำนวณภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อตาม มาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่อาจประเมินภาษีจากส่วนต่างของภาษีชำระเกินยกมาสูงกว่า ความเป็นจริงได้ การประเมินภาษีและเงินเพิ่มของเจ้าพนักงานประเมินจึงไม่ถูกต้อง (2) กรณีเงินภาษีที่ชำระไว้แล้วตามการประเมิน ผู้อุทธรณ์มีสิทธิขอคืนได้แต่ไม่สามารถ นำเงินภาษีดังกล่าวไปใช้เป็นเครดิตภาษีในเดือนถัดไป คำวินิจฉัยอุทธรณ์ตาม (2) จะทำให้การยื่นแบบ ภ.พ.30 ของเดือนธันวาคม 2540 เดือนมกราคม 2541 และเดือนกุมภาพันธ์ 2541 ผิดพลาดคลาดเคลื่อน บริษัทฯ ต้องชำระภาษีเพิ่มเติม และเงินเพิ่มตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร 6. บริษัทฯจึงขออนุมัติกรมสรรพากร ดังนี้ (1) ขอแก้ไขแบบ ภ.พ.30 ของเดือนตุลาคม 2540 โดยระบุว่าขอนำภาษีที่ชำระไว้ เกินไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไป และให้ถือว่าแบบ ภ.พ.30 ฉบับดังกล่าวถูกต้อง จะทำให้บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีที่ชำระไว้เกินของเดือนตุลาคม 2540 ไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเดือนพฤศจิกายน 2540 และก็จะทำให้แบบ ภ.พ.30 ของเดือนอื่น ๆ ถัดไป ถูกต้องด้วย (2) บริษัทฯ ไม่ประสงค์ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์จำนวน 11,278,010.79 บาท เพราะได้นำไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนพฤศจิกายน 2540 แล้ว แต่จะขอคืน เงินเพิ่มจำนวน 338,340.32 บาท เท่านั้น |