ข้อหารือ | : บริษัท ป. จำกัด ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับบริษัท มาตรา จำกัด โดยมี รายละเอียดว่า 1. ผู้จะขายตกลงจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 01 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัด ปทุมธานีพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 120,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) 2. ในวันทำสัญญา ผู้จะซื้อตกลงจ่ายตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับหนึ่ง จำนวน 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาทถ้วน) เพื่อเป็นการวางเงินมัดจำในการซื้อขาย โดยระบุในสัญญาว่าไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของค่าที่ดิน โดยผู้จะขายจะต้องคืนให้แก่ผู้จะซื้อ เมื่อผู้จะขายได้รับชำระค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันจด โอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน จำนวนเงิน 120,000,000 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) แล้ว ผู้จะขายจะคืนตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับดังกล่าวทันที 3. ปรากฏว่าผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าที่ดินตามข้อตกลง เนื่องจากประสบปัญหาในทาง เศรษฐกิจและยินยอมให้ผู้จะขายริบเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับดังกล่าวได้ และถือว่าสัญญาฉบับดังกล่าว เป็นอันยกเลิกทันที บริษัทฯ หารือว่าเงินมัดจำดังกล่าวนั้นจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่าตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวได้ กระทำในขณะการใช้บังคับของพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 ก่อนมีการยกเลิกโดย พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ที่ให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2542 ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) นั้น มิได้มีบทบัญญัติไว้ชัดเจน ดังเช่น มาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) ซึ่ง บัญญัติว่า ให้การขายอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะที่ต้องจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมดังต่อไปนี้ เป็น การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2(6) แห่ง ประมวลรัษฎากร... โดยอีกนัยหนึ่งนั้นตามมาตรา 91/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติว่า ขาย หมายความรวมถึงสัญญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้ ให้เช่าซื้อ หรือจำหน่ายจ่ายโอน ไม่ว่าจะมี ประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ กรณีจึงยังไม่ชัดเจนว่า เงินมัดจำตามสัญญาจะซื้อขายจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ และประกอบกับกรณีดังกล่าวกรมสรรพากรยังไม่เคยมีคำวินิจฉัยไว้จึงขอให้กรมสรรพากรพิจารณา |