ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประFAQ
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 


พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
พระราชบัญญัติ
ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514

-----------------------------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2514
เป็นปีที่ 26 ในรัชกาลปัจจุบัน

 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา 1  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514"

มาตรา 2*  พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
*[รก.2514/43/63พ./23 เมษายน 2514]

มาตรา 3  บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติ  ไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้   ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
 

หมวด 1
ข้อความทั่วไป

----------------------

 
มาตรา 4  ในพระราชบัญญัตินี้
"ปิโตรเลียม" หมายความว่า  ปิโตรเลียมที่ผลิตในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
"น้ำมันดิบ" หมายความว่า  น้ำมันดิบตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
"น้ำมันดิบที่ส่งออก" หมายความว่า  น้ำมันดิบที่บริษัทซึ่งได้รับสัมปทาน หรือมีส่วนได้เสียร่วมกันในสัมปทานส่งออกนอกราชอาณาจักร หรือขายให้แก่  บุคคลอื่นเพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร และให้หมายความรวมถึงน้ำมันดิบที่กลั่นในราชอาณาจักรเฉพาะส่วนที่ถือว่าเป็นน้ำมันดิบที่ส่งออกตามกฎหมายว่าด้วย ปิโตรเลียม
"กิจการปิโตรเลียม" หมายความว่า  กิจการปิโตรเลียมตามกฎหมาย ว่าด้วยปิโตรเลียม  และให้หมายความรวมถึงการโอนทรัพย์สินหรือสิทธิใด  ๆ
ทั้งหมด หรือบางส่วนที่เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวไม่ว่าการโอนนั้นจะเป็น ปกติธุระหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งกิจการใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการหรือการโอนดังกล่าวด้วย
"เงินได้" หมายความว่า  เงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้มาอันอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน และรวมถึงภาษีอากรที่มีผู้อื่นออกแทนให้ แต่ไม่รวมถึงภาษีที่ให้บริษัทผู้ขายนำมาเป็นเครดิตตามมาตรา 32
"ราชอาณาจักร" หมายความว่า  ราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วย ปิโตรเลียม
"สัมปทาน" หมายความว่า  สัมปทานตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
"ขาย" หมายความว่า  ขายตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
"จำหน่าย"* หมายความว่า  ส่งน้ำมันดิบไปยังโรงกลั่นน้ำมันหรือ  สถานที่เก็บรักษาเพื่อการกลั่นน้ำมันของบริษัท ส่งก๊าซธรรมชาติไปยังโรงแยกก๊าซ โรงทำก๊าซให้เป็นของเหลว โรงอัดก๊าซ หรือสถานที่เก็บรักษาเพื่อ   กิจการดังกล่าวของบริษัทนำปิโตรเลียมที่ต้องเสียค่าภาคหลวงไปใช้ในกิจการ   ใด ๆ ของบริษัทหรือของผู้อื่นโดยไม่มีการขาย หรือโอนปิโตรเลียมที่ต้อง เสียค่าภาคหลวงโดยไม่มีค่าตอบแทน 
*[นิยามคำนี้แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2532]
"ราคามาตรฐาน" หมายความว่า  ราคาประกาศตามกฎหมายว่าด้วย  ปิโตรเลียม หักด้วยส่วนลดถ้ามี
"ราคาตลาด" หมายความว่า  ราคาในตลาดเปิดเผย หากไม่มีราคา  ดังกล่าว หมายความว่า  ราคาที่พึงคิดกันระหว่างบุคคลซึ่งเป็นอิสระต่อกันโดย   ไม่มีความสัมพันธ์ในด้านทุนหรือการจัดการ
"ค่าภาคหลวง" หมายความว่า  ค่าภาคหลวงตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
"บริษัท" หมายความว่า  บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ซึ่ง
       (1) ได้รับสัมปทานหรือมีส่วนได้เสียร่วมกันในสัมปทาน หรือ
       (2) ซื้อน้ำมันดิบที่บริษัทตาม (1) เป็นผู้ผลิต เพื่อส่งน้ำมันดิบนั้น ทั้งหมดออกนอกราชอาณาจักร
"อธิบดี" หมายความว่า  อธิบดีกรมสรรพากร
"รัฐมนตรี" หมายความว่า  รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้


มาตรา 5  กำหนดเวลาตามที่ได้ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติมีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถปฏิบัติตามกำหนดเวลาได้ ให้อธิบดี  โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งขยายหรือเลื่อนเวลาออกไปได้ตามความจำเป็นแก่กรณี

มาตรา 6  ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงานตรวจค้นหรือยึดบัญชี เอกสาร  หรือหลักฐานอื่นใดซึ่งเกี่ยวกับรายได้และรายจ่ายของกิจการปิโตรเลียม หรือ ซึ่งอธิบดีมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกี่ยวกับรายได้และรายจ่ายดังกล่าว 
การตรวจค้นหรือยึดตามวรรคหนึ่งให้กระทำในเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของผู้ถูกตรวจค้นหรือ   ถูกยึด  เว้นแต่การตรวจค้นหรือยึดในเวลาดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ จะกระทำ   ต่อไปก็ได้ หรือในกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่ง อธิบดีจะออกคำสั่งให้ตรวจค้นหรือยึด   ในเวลาใด ๆ ก็ได้


มาตรา 7  ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้บริษัทแสดงบัญชี หลักฐาน รายงาน หรือแจ้ง   ข้อความใด ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ หรือซึ่งอธิบดีมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกี่ยวกับกิจการ ปิโตรเลียมของบริษัท
คำสั่งตามวรรคหนึ่งจะให้ปฏิบัติก่อนรอบระยะเวลาบัญชีแรกของบริษัทก็ได้


มาตรา 8  บรรดาบัญชี หลักฐาน และเอกสารประกอบการลงบัญชี ซึ่งเกี่ยวกับกิจการปิโตรเลียมของบริษัทให้ทำเป็นภาษาไทยและต้องระบุเป็น เงินตราไทย  เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทร้องขอ อธิบดีอาจอนุมัติให้บริษัททำเป็น ภาษาต่างประเทศและระบุเป็นเงินตราต่างประเทศได้


มาตรา 9  บรรดาบัญชี หลักฐาน รายงาน และเอกสารต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ หรือซึ่งอธิบดีหรือเจ้าพนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกี่ยวกับ   รายได้และรายจ่ายของกิจการปิโตรเลียม ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศ อธิบดี หรือเจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจสั่งให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ จัดการแปลเป็นภาษาไทยให้เสร็จภายในเวลาอันสมควรได้

มาตรา 10  หมายเรียก หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นที่มีถึงบุคคลใดเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นำไปส่งในเวลาระหว่าง   พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของผู้รับ หรือส่งโดย   ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
       ถ้าไม่สามารถจะส่งตามวิธีดังกล่าวในวรรคหนึ่งด้วยเหตุใด ๆ ให้ส่งโดยวิธีปิดหมายเรียก หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่น ณ ที่เห็น   ได้ง่ายที่ประตูบ้าน สำนักงาน ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ของผู้รับ หรือส่งโดยวิธีย่อข้อความในหมายเรียก หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นนั้น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ก็ได้
       เมื่อได้ส่งตามวิธีดังกล่าวในวรรคสองและเวลาได้ล่วงพ้นไปสามวันแล้ว ให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับหมายเรียก หนังสือแจ้งการประเมิน หรือหนังสืออื่นนั้นแล้ว

มาตรา 11  เจ้าพนักงานผู้ใดโดยหน้าที่ราชการได้รู้เรื่องกิจการของผู้เสียภาษี หรือของผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง ห้ามมิให้นำออกแจ้งแก่ผู้ใดหรือทำให้เป็นที่ล่วงรู้แก่ผู้อื่นโดยวิธีใด ๆ เว้นแต่จะมีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

มาตรา 12  ให้บริษัทจำกัดและนิติบุคคลที่มีสภาพเช่นเดียวกับบริษัท จำกัดซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ ได้รับยกเว้น
   (1) ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร และ
   (2) ภาษีอากรตามกฎหมายอื่น เว้นแต่ตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
   ทั้งนี้ เฉพาะภาษีอากรที่เก็บจากกำไรสุทธิหรือที่เก็บจากเงินได้ที่ต้องนำมารวมเพื่อคำนวณกำไรสุทธิ หรือเงินได้อันต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 13  ให้บริษัทจำกัดและนิติบุคคลที่มีสภาพเช่นเดียวกับบริษัทจำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ได้รับยกเว้น
    (1) ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร และ
    (2) ภาษีอากรตามกฎหมายอื่น
      ทั้งนี้ เฉพาะภาษีอากรที่เก็บจากเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรที่จ่ายจากกำไรสุทธิ หรือที่จ่ายจากเงินได้อันต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 14  ภาษีที่ต้องเสียหรือนำส่งตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อถึงกำหนดชำระหรือนำส่งแล้ว มิได้ชำระหรือนำส่ง ให้ถือเป็นภาษีค้าง
เพื่อให้ได้รับชำระภาษีค้าง ให้นำบทบัญญัติตามประมวลรัษฎากรที   เกี่ยวกับวิธีการเพื่อให้ได้รับชำระภาษีอากรค้างมาใช้บังคับ

มาตรา 15  ให้ลดหรือยกเว้นภาษีตามพระราชบัญญัตินี้แก่บุคคลตาม  สัญญาว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่รัฐบาลไทยทำกับรัฐบาลต่างประเทศ

มาตรา 16  ให้อธิบดีมีอำนาจ
(1) กำหนดแบบแสดงรายการและแบบพิมพ์อื่น
(2) แต่งตั้งเจ้าพนักงานประเมินและเจ้าพนักงานอื่น
(3) กำหนดระเบียบหรือข้อบังคับให้ผู้เสียภาษีหรือผู้ทำการแทนทำบัญชี  หลักฐาน รายงาน หรือทำการใด ๆ ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการ   จัดเก็บและการเสียภาษี
การแต่งตั้งเจ้าพนักงานตาม (2) และการกำหนดระเบียบหรือ ข้อบังคับตาม (3) ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา 17  อำนาจของอธิบดีตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7   มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 26 (1) และมาตรา 77 อธิบดีอาจมอบอำนาจโดยทำเป็นหนังสือให้ผู้อำนวยการกอง หัวหน้ากองในกรมสรรพากร หรือ  สรรพากรเขต เป็นผู้ทำการแทนได้

มาตรา 18*  รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดส่วนลดเพื่อประโยชน์ในการคำนวณราคามาตรฐาน ดังต่อไปนี้
(1) ไม่เกินร้อยละ 7 ของราคาประกาศตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม เป็นเวลาไม่เกินเก้าปีนับแต่วันที่บริษัทเริ่มผลิตปิโตรเลียมจาก แปลงสำรวจแต่ละแปลง ที่มิใช่แปลงสำรวจที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนดว่าเป็นแปลงสำรวจในทะเลที่มีน้ำลึกเกินสองร้อยเมตรตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
(2) ไม่เกินร้อยละ 30 ของราคาประกาศตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม เป็นเวลาไม่เกินเก้าปีนับแต่วันที่บริษัทเริ่มผลิตปิโตรเลียมจาก แต่ละพื้นที่ผลิตในแปลงสำรวจ ที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนดว่าเป็นแปลงสำรวจในทะเลที่มีน้ำลึกเกินสองร้อยเมตรตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดส่วนลดตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่มีการขยายอายุสัมปทานในส่วนที่เกี่ยวกับการผลิตปิโตรเลียม ตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม เนื่องจากการผลิตปิโตรเลียมต้องหยุดชะงักลง   เพราะเหตุสุดวิสัย มิให้นับระยะเวลาที่ได้รับการขยายอายุสัมปทานนั้นรวมเข้า เป็นส่วนหนึ่งของระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง*
 *[มาตรา 18 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2550]
 *[มาตรา 18 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516]

มาตรา 19  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
      กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
 
clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Monday, April 20, 2015

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161