ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ.4624

วันที่

: 7 มิถุนายน 2543

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีโอนสิทธิตามประทานบัตร

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 77/1, มาตรา 86/10

ข้อหารือ

: องค์การเหมืองแร่ในทะเล (อ.ม.ท.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม
จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ. 2518 ซึ่งต่อมามีพระราชกฤษฎีกา
ยุบเลิกองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ. 2540 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การเหมืองแร่ใน
ทะเล พ.ศ. 2518 แต่องค์การเหมืองแร่ในทะเลซึ่งได้ยุบเลิกไปนั้น ให้ยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่
จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ.
2540 ขณะนี้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่าง
ดำเนินการชำระบัญชี โดยชำระหนี้สินและจำหน่ายทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ เรือประทานบัตรเหมืองแร่
ในทะเล และทรัพย์สินอื่น ๆ ในการจำหน่ายสิทธิตามประทานบัตรเหมืองแร่ในทะเลนั้น อ.มาตราท. ได้
ทำสัญญาจะรับโอนสิทธิตามประทานบัตรกับ บริษัท ท. จำกัด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 ตามสัญญานี้
แบ่งการชำระเงินเป็น 3 งวด และ อ.ม.ท. ได้รับชำระเงินจากบริษัทฯ แล้ว 2 งวด คือ งวดที่
1 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 จำนวน 200,000 บาท งวดที่ 2 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2543
จำนวน 1,400,000 บาท สำหรับงวดที่ 3 บริษัทฯ จะต้องชำระเงินจำนวน 400,000 บาท ภายใน 7
วัน นับแต่วันที่ อ.ม.ท. แจ้งให้ทราบถึงการอนุญาตให้โอนประทานบัตรได้ ทั้งนี้ การโอน
ประทานบัตรจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัทฯ ต้องชำระ
ค่าธรรมเนียม ค่าจดทะเบียน ค่าตอบแทนการโอน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.
2510 แต่หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เห็นชอบและหรือไม่อนุญาตให้โอนประทานบัตร ให้
ถือว่าสัญญานี้เป็นอันยกเลิกตามความในข้อ 6 ของสัญญา ซึ่ง อ.ม.ท. จะต้องคืนเงินจำนวน
1,600,000 บาท ให้แก่บริษัทฯ ทั้งหมด
อ.ม.ท. จึงขอหารือเกี่ยวกับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้
1. โดยที่ อ.ม.ท. มิได้มีวัตถุประสงค์ในการโอนขายสิทธิตามประทานบัตรในทางธุรกิจ
การโอนสิทธิตามประทานบัตรเหมืองแร่กรณีนี้ อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และบุคคลใด
เป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. กรณี อ.ม.ท. มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อ.ม.ท. ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีกรณีรับ
ชำระเงินค่างวด 2 งวด จำนวน 1,600,000 บาท ได้หรือไม่ เนื่องจากถือว่าเงินดังกล่าวเป็นเงิน
จองหรือเงินมัดจำ ซึ่งหากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้โอนประทานบัตร
อ.ม.ท. จะต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ ทั้งหมด ทั้งนี้ ตามมาตรา 78(2) แห่งประมวลรัษฎากร
และข้อ 5(1) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 เรื่อง การขายสินค้าตามสัญญาให้เช่าซื้อหรือ
สัญญาซื้อขายผ่อนที่ชำระกรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่ได้โอนไปยังผู้ซื้อ เมื่อได้ส่งมอบ ตามมาตรา 78(2)
แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และเมื่อได้รับชำระงวดที่ 3 อีกจำนวน
400,000 บาท อ.ม.ท. จะออกใบกำกับภาษีเพียง 1 ฉบับ โดยคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากเงินจำนวน
2,000,000 บาท

แนววินิจฉัย

: 1. สิทธิตามประทานบัตรเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ไม่ว่าจะมีไว้
เพื่อขาย เพื่อใช้หรือเพื่อการใด ๆ เข้าลักษณะเป็นสินค้า ตามมาตรา 77/1(9) แห่งประมวลรัษฎากร
ดังนั้น การโอนสิทธิตามประทานบัตร จึงเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ตามมาตรา
77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร อ.ม.ท. ผู้โอนสิทธิตามประทานบัตรจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อ
ได้รับชำระราคาค่าสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ตามมาตรา 78/3(1) แห่งประมวลรัษฎากรและข้อ 2 ของ
กฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2534)ฯ ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534
2. กรณี อ.ม.ท. รับชำระเงินตามสัญญาโอนสิทธิตามประทานบัตรงวดที่ 1 และงวดที่ 2
รวม 1,600,000 บาท ถือเป็นการรับชำระราคาค่าสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ซึ่งมีข้อตกลงให้แบ่งชำระได้ ไม่
เข้าลักษณะเป็นเงินจองหรือเงินมัดจำที่ชำระล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายก่อนทำการตกลงว่าจะซื้อขายสินค้าใน
ลักษณะซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือซื้อขายตามสัญญาให้เช่าซื้อ ซึ่งหากไม่มีการทำสัญญาซื้อขายให้สำเร็จ
บริบูรณ์ต้องมีการคืนเงินจองหรือเงินมัดจำ ตามข้อ 5(1) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 ฯ
ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ดังนั้น อ.ม.ท. จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีเมื่อความรับผิด
ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น
3. กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เห็นชอบและหรือไม่อนุญาตให้โอนสิทธิ
ตามประทานบัตรซึ่ง อ.ม.ท. มีหน้าที่ต้องคืนเงินที่ได้รับชำระแล้วทั้ง 2 งวด อ.ม.ท. ต้องออกใบลดหนี้
ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ บริษัท ท. จำกัด ทั้งนี้ ตามมาตรา 82/10(1) และ
(3) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(2) แห่งประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 82) เรื่อง กำหนดเหตุอื่น ตามมาตรา 82/10(1)(2)(3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร
ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542

เลขตู้

: 63/29410

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161