ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ.4655

วันที่

: 8 มิถุนายน 2543

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการขายกิจการองค์การแก้ว

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 82/3, มาตรา 85/15

ข้อหารือ

: คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2542 อนุมัติให้แปรรูปองค์การแก้วให้กับ
บริษัท ก.จำกัดเป็นเงิน 175 ล้านบาท และกระทรวงกลาโหมได้แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำระบัญชี
องค์การแก้วขึ้น ตามพระราชกฤษฎีกา ยุบเลิกองค์การแก้ว พ.ศ. 2543 และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์
2543 คณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการจำหน่ายกิจการองค์การแก้วให้กับบริษัทฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ดังกล่าว โดยได้รับชำระเงินจำนวน 175 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว จึงหารือว่า การจำหน่ายกิจการ
องค์การแก้วจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และหากต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คณะกรรมการฯ ขอให้
กรมสรรพากรพิจารณางดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษให้ด้วย

แนววินิจฉัย

: องค์การแก้ว ได้โอนกิจการซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดให้กับ บริษัท ก.
จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีตามมาตรา 82/3 แห่ง
ประมวลรัษฎากร โดยเมื่อโอนกิจการไปแล้ว องค์การแก้วจะยุบเลิกไปตามพระราชกฤษฎีกายุบเลิก
องค์การแก้ว พ.ศ. 2543 ดังนั้น การโอนกิจการดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นการโอนกิจการทั้งหมดให้
กับบริษัทฯ ผู้รับโอน ซึ่งไม่ถือเป็นการ “ขาย” ตามมาตรา 77/1(8)(ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร
องค์การแก้วจึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการโอนกิจการดังกล่าวแต่อย่างใด อนึ่ง เมื่อ
องค์การแก้วได้โอนกิจการทั้งหมด และเสร็จสิ้นการชำระบัญชีแล้ว องค์การแก้วมีหน้าที่ต้องแจ้งเลิก
ประกอบกิจการพร้อมทั้งคืนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ สถานที่ที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ตาม
มาตรา 85/15 แห่งประมวลรัษฎากร
สำหรับการจำหน่ายกิจการองค์การแก้วในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว
เป็นกรรมสิทธิ์ขององค์การแก้ว ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ ตาม
มาตรา 4(5) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์
เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 องค์การแก้วจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจาก
การโอนขายทรัพย์สินดังกล่าว ในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา
91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.82/2542 เรื่อง การเสีย
ภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรตามมาตรา 91/2(6) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542

เลขตู้

: 63/29412

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161