ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ.7139

วันที่

: 28 พฤศจิกายน 2543

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการชำระค่าบริการตามโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 80/1(4)

ข้อหารือ

: กรมทางหลวงได้ทำสัญญาจ้าง A. ทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 41 ภายใต้โครงการ
เงินกู้ OECF การจ่ายเงินค่างานแบ่งจ่ายเป็น 2 ส่วน ๆ หนึ่งจ่ายจากเงินกู้ OECF เป็นเงินเยน 53%
และส่วนที่เหลือ 47% จ่ายจากเงินงบประมาณ
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการจ่ายค่างานในส่วนของเงินงบประมาณ 47% โดยให้ใช้ เงินกู้
OECF แทนเงินงบประมาณทั้งหมด แต่ใช้เงินทดรองราชการจ่ายไปก่อนแล้วจึงนำหลักฐานการจ่ายไปขอ
เบิกเงินกู้ OECF มาใช้คืนเงินทดรองราชการในภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้ค่างานตาม
สัญญาจ่ายจากเงินกู้ทั้ง 100% และการจ่ายเงินค่างานได้รับสิทธิ์เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0
กรมทางหลวงได้เบิกจ่ายค่างานงวดที่ 1, 2, 3 ในส่วนของเงินทดรองราชการ 47% และ
ได้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้ผู้รับเหมาไปด้วย รวมเป็นเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 2,448,564.76
บาท ซึ่งผู้รับเหมาในฐานะผู้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) แล้ว
เมื่อเดือนสิงหาคม 2542 และกรมทางหลวงได้นำเอกสารการจ่ายเงินทดรองราชการของค่างานงวด
1, 2, 3 ไปขอเบิกจากเงินกู้ OECF เพื่อนำมาใช้คืนเงินทดรองราชการตามวิธีการ แต่ปรากฏว่าแหล่ง
เงินกู้จ่ายชดใช้คืนเงินทดรองราชการเฉพาะค่างาน โดยไม่จ่ายค่าภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเหตุให้เงินทดรอง
ราชการได้รับการใช้คืนขาดไปเท่ากับจำนวนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,448,564.76 บาท และเงินทดรอง
ราชการที่คงเหลือไม่พอจ่ายค่างานได้ครบตามสัญญา กรมทางหลวงมีความจำเป็นต้องหาเงินมาชดใช้
เงินทดรองราชการให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขการเบิกจ่าย จึงได้ดำเนินการขออนุมัติจากสำนักงบประมาณ
มาใช้เพื่อการนี้ ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงขอให้กรมทางหลวง
ติดต่อประสานงานขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจากกรมสรรพากรโดยตรง
กรมทางหลวงเห็นว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2,448,564.76 บาท เกิดจากการจ่ายค่างาน
ตามโครงการเงินกู้ OECF ซึ่งได้รับสิทธิ์เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(4)
แห่งประมวลรัษฎากร และกรมทางหลวงจะขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2,448,564.76 บาท ได้
หรือไม่

แนววินิจฉัย

: กรณี A. ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะได้รับสิทธิใช้อัตราภาษีร้อยละ 0 ในการคำนวณ
ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องเป็นการขายสินค้าหรือให้บริการกับ
กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่
กำหนดตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขายสินค้าหรือการให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือ
รัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ตามมาตรา 80/1(4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535 กรณีตามข้อหารือ หากกรมทางหลวงจ่ายเงินตาม
โครงการเงินกู้ฯ และได้มีการออกหนังสือรับรองภายหลังการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ก็ถือได้ว่า
กรมทางหลวงได้ปฏิบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว
ผู้ประกอบการจดทะเบียนก็จะได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(4) แห่ง
ประมวลรัษฎากรและประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว
สำหรับกรณีที่กรมทางหลวงถูกผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว
กรมทางหลวงสามารถเรียกคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการจดทะเบียน และผู้ประกอบการจดทะเบียน
มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากร โดยยื่นคำร้องขอคืนตามแบบที่อธิบดีกำหนด (ค.10) ตาม
มาตรา 84/1 แห่งประมวลรัษฎากร โดยผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิขอคืนต้องแนบหนังสือรับรอง
การชำระค่าสินค้าหรือบริการของส่วนราชการและสำเนาใบกำกับภาษีมาพร้อมกับการยื่นแบบ ค.10 ทั้งนี้
เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0
ตามหลักเกณฑ์ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว

เลขตู้

: 63/29974

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161