ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811(กม.03)/1675

วันที่

: 3 พฤศจิกายน 2543

เรื่อง

: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 48(1)(2)

ข้อหารือ

: กรณีผู้มีเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารจากบัญชีเงินฝากบัญชีเดียวหรือหลายบัญชีใน
ธนาคารเดียวกันหรือหลายธนาคาร ใช้สิทธิเลือกนำเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารมารวมคำนวณ
ภาษี ตามมาตรา 48(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้จะต้องนำดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร
ที่ได้รับทั้งหมดในปีภาษีนั้นมารวมคำนวณ หรือนำดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเพียงบางส่วนมารวมคำนวณก็ได้
หลักกฎหมาย
การเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ตาม มาตรา
40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีที่ผู้มีเงินได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้
ตามมาตรา 50(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการ ผู้มีเงินได้จะเสีย
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยนำไปรวมกับเงินได้อื่น และคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า หรือจะใช้สิทธิ
เลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ โดยไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวไป
รวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นก็ได้ ตามมาตรา 48(3)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีที่ผู้มีเงินได้
พิจารณาเห็นว่า มีภาระภาษีที่ต้องเสียสำหรับปีภาษีนั้นน้อยกว่าจำนวนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย (อัตราร้อยละ
15.0) ผู้มีเงินได้ก็มีสิทธินำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นเพื่อขอรับเงินภาษีที่ถูกหัก ณ
ที่จ่ายไว้เกินนั้นคืนได้ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 19/2533 เรื่อง
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การเลือกเสียภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักร
ฯลฯ ตามมาตรา 48(3) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2533

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีผู้มีเงินได้เป็นบุคคลธรรมดา มีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
เมื่อมีการจ่ายเงินได้ดังกล่าวให้กับผู้รับ ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้
ทุกคราวในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ ตามมาตรา 50(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร
เมื่อถึงกำหนดเวลายื่นรายการ ผู้มีเงินได้มีสิทธิเลือกเสียภาษี ดังนี้
1.1 เลือกเสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 15.0 ตามที่ถูกผู้จ่ายเงินได้หักภาษีเงินได้ ณ
ที่จ่าย
1.2 เลือกเสียภาษีโดยนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นแบบแสดงรายการ ตามแบบ ภ.ง.ด.90
เพื่อเสียภาษีเงินได้ตามเกณฑ์ปกติ
2. ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากจะต้องคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 15.0
ของเงินได้ ตามมาตรา 50(2) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ผู้มีเงินได้มีสิทธิ์นำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษี
ตอนสิ้นปี ตามมาตรา 48(3)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ก็ได้ส่วนจะได้รับคืนเงินภาษีที่ถูกหัก ณ
ที่จ่ายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าเมื่อนำเงินได้ที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตอน
สิ้นปีจะต้องเสียเท่าใด หากภาษีที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่ายเกินกว่าภาษีที่ต้องเสียก็จะได้คืนภาษีจากส่วนที่เกินนั้น
3. จากหลักกฎหมายและแนวการวินิจฉัยที่กล่าวไว้ใน 1 และ 2 กรณีดังกล่าวให้ผู้มีเงินได้
มีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 15.0 ตามที่ถูกผู้จ่ายเงินได้หักภาษีเงินได้ ณ
ที่จ่าย หรือเลือกเสียภาษีเงินได้ตามเกณฑ์ปกติ และการให้สิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใน
อัตราร้อยละ 15.0 (ไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่น) ก็เพื่อเป็นการบรรเทาภาระ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้มีเงินได้ดังกล่าวที่จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้
ดังกล่าวสูงกว่าจำนวนเงินภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ และในกรณีที่
ผู้มีเงินได้เห็นว่ามีภาระภาษีที่ต้องเสียสำหรับปีภาษีนั้นน้อยกว่าจำนวนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย ผู้มีเงินได้ก็
มีสิทธินำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นเพื่อขอรับเงินภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้เกินนั้นคืนได้
ย่อมหมายความว่า กรณีที่ผู้มีเงินได้ใช้สิทธิเลือกนำเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารมารวมคำนวณภาษี
เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการ ผู้มีเงินได้จะต้องนำดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่ได้รับทั้งหมดในปีภาษีนั้นจาก
บัญชีเงินฝากที่มีอยู่ในธนาคารทุกแห่งมารวมคำนวณภาษีตามเกณฑ์ปกติ ตามมาตรา 48(1) และ (2)
แห่งประมวลรัษฎากร เพราะผู้มีเงินได้จะต้องนำภาษีที่คำนวณได้ตามเกณฑ์ปกติเปรียบเทียบกับภาษีที่ถูกหัก
ณ ที่จ่าย เพื่อจะได้ทราบว่าภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายมากกว่าภาษีที่คำนวณตามเกณฑ์ปกติหรือไม่และถ้า
มากกว่าจะได้เลือกคำนวณภาษีตามเกณฑ์ปกติ และขอรับเงินภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้เกินคืนได้

เลขตู้

: 64/30058

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161