ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/7267

วันที่

: 1 ธันวาคม 2543

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการแยกธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยออกจากกัน

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65 ทวิ (3), พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 282) พ.ศ. 2538, ประกาศอธิบดีฯ เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 53)ฯ

ข้อหารือ

: กรณีบริษัทจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการประกันภัยทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยพ.ศ.2535 กำหนดให้
บริษัทฯ จะต้องแยกธุรกิจทั้งสองออกจากกัน บริษัทฯ จึงได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดขึ้นใหม่ในปี 2543
เพื่อรับโอนกิจการประกันวินาศภัยแยกออกไป (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า“บริษัทประกันวินาศภัย) ส่วนบริษัท
ประกันภัยเดิมยังคงประกอบกิจการประกันชีวิตต่อไป (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัทประกันชีวิต”) ก่อน
การแยกธุรกิจบริษัทประกันภัยเดิมประกอบด้วยผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด (ถือหุ้น 20%) และ
บุคคลธรรมดา (ถือหุ้นรวมกัน 80%) ซึ่งต่อมา (ปี 2543) เมื่อมีการแยกธุรกิจประกันชีวิตและ
ประกันวินาศภัยออกจากกัน กิจการประกันวินาศภัยถูกแยกออกไปจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ คือ บริษัท
ประกันวินาศภัย ซึ่งยังคงประกอบด้วยผู้ถือหุ้นชุดเดิมที่เป็นบริษัทจำกัด และบุคคลธรรมดา ตามอัตราส่วน
เดิมที่ถือในบริษัทประกันภัยเดิม
บริษัทฯ มีปัญหากฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวกับการแยกบริษัทประกันวินาศภัยออกไปจัดตั้งเป็น
บริษัทใหม่ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่
282) พ.ศ.2538 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 53)เรื่อง กำหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ กรณีเงินได้จากการโอนทรัพย์สินเพื่อแยกบริษัทที่ได้
รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิต และบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยออกจาก
กัน ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2538 จึงหารือเกี่ยวกับประเด็นปัญหาภาษีเงินได้ของผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งเป็น
บริษัทจำกัด และบุคคลธรรมดาดังกล่าวข้างต้น ที่เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทประกันวินาศภัยที่แยกออกไป
ตั้งขึ้นใหม่ ดังนี้
1. กรณีผู้ถือหุ้นเดิมในบริษัทประกันภัยเดิมทั้งบริษัทจำกัดและบุคคลธรรมดาได้รับหุ้นสามัญใน
บริษัทประกันวินาศภัยที่จัดตั้งใหม่ในอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนเดิมในบริษัทประกันภัยเดิม (คือ 20%
และ 80%) มูลค่าหุ้นสามัญที่จดทะเบียน (ราคาพาร์) ตามสัดส่วนเดิมของผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับในบริษัท
ประกันวินาศภัยที่แยกไปตั้งใหม่ในปี 2543 (เท่ากับจำนวนกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรของกิจการ
ประกันวินาศภัยของปีบัญชีก่อนปีบัญชีสุดท้าย (ปี 2541) ในบริษัทประกันภัยเดิมที่ยกมา) จะได้รับยกเว้น
ภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี ตามข้อ 1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 53)ฯ ดังกล่าว ถูกต้องหรือไม่
2. มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาพาร์ตามอัตราส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับมาในบริษัท
ประกันวินาศภัยที่ตั้งขึ้นใหม่ตาม 1. จะถือเป็นมูลค่าทรัพย์สินของผู้ถือหุ้นเดิม โดยจะถือเป็นราคาที่พึงซื้อ
ทรัพย์สินนั้นตามปกติตามมาตรา 65 ทวิ (3) แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีผู้ถือหุ้นเดิมเป็นบริษัทจำกัด
และถือเป็นมูลค่าเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นเดิมในกรณีผู้ถือหุ้นเดิมเป็นบุคคลธรรมดาถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีตาม 1. เมื่อผู้ถือหุ้นเดิมในบริษัทประกันภัยเดิมได้รับหุ้นสามัญในบริษัทประกันวินาศภัย
ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนในบริษัทประกันภัยเดิม มูลค่าของหุ้นสามัญที่ผู้ถือหุ้นเดิมได้รับ
ในบริษัทประกันวินาศภัยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ดังกล่าว จึงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และ
ภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้วแต่กรณีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 282) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 53)ฯ
2. กรณีตาม 2. มูลค่าของหุ้นสามัญที่ได้รับตาม 1. ให้ถือเป็นต้นทุนของทรัพย์สินหรือราคาที่
พึงซื้อทรัพย์สินนั้นได้ตามปกติตามมาตรา 65 ทวิ (3) แห่งประมวลรัษฎากร ของผู้ถือหุ้นเดิม ในกรณีที่
ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นบริษัทจำกัด และถือเป็นต้นทุนหรือมูลค่าเงินลงทุนในหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิม ในกรณีที่
ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นบุคคลธรรมดา

เลขตู้

: 63/29982

 


 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161