ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/4078

วันที่

: 17 พฤษภาคม 2545

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการกำหนดราคาซื้อขายระหว่างบริษัทในกลุ่ม

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65 ทวิ (4)

ข้อหารือ

: บริษัท ก. เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ประกอบธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกันซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในกลุ่มหลายแห่งทั้งใน
กรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท ต.ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ เพื่อ
ความสะดวกในการบริหารงานขายและผลประโยชน์ที่จะได้รับจาก ผู้จัดจำหน่าย การสั่งซื้อรถยนต์แต่ละ
ครั้งอาจให้บริษัทในกลุ่มบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นผู้สั่งซื้อจากผู้จัดจำหน่ายโดยตรง จากนั้นจึงขายให้กับ
บริษัทในเครือที่ต้องการด้วยราคาทุนเพื่อขายให้ลูกค้าต่อไป ส่วนผลประโยชน์ที่ได้รับจากผู้จัดจำหน่ายจะ
นำมาแบ่งระหว่างบริษัทในกลุ่มตามสัดส่วนการซื้อที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ในการบริหารงานบางครั้งบริษัทใน
กลุ่มจำเป็นต้องมีการยืมเงินระหว่างกัน โดยคิดดอกเบี้ยเงินกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเป็นหลัก
บริษัท ก. จึงหารือว่า
1. การซื้อรถยนต์ระหว่างบริษัทในกลุ่มที่มิได้มีการถือหุ้นระหว่างกันแต่ผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลใน
ครอบครัวเดียวกันด้วยราคาทุน ถือว่ามีเหตุอันสมควรหรือไม่และหากเป็นบริษัทที่ถือหุ้นระหว่างกันเกิน
ร้อยละ 25 ถือว่ามีเหตุผลอันสมควรหรือไม่
2. บริษัทในกลุ่มที่มิได้ถือหุ้นระหว่างกันเกินร้อยละ 25 จะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมต่ำกว่าอัตรา
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารถือว่ามีเหตุอันสมควรหรือไม่

แนววินิจฉัย

: กรณีการซื้อขายรถยนต์ด้วยราคาทุนระหว่างบริษัทในกลุ่มไม่ว่าจะถือหุ้นระหว่างกันเกินร้อยละ
25 หรือไม่ ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน หากปรากฏว่าราคาทุนดังกล่าวต่ำกว่าราคาตลาด ถือได้
ว่าเป็นการโอนทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมิน
มีอำนาจประเมินราคาขายตามราคาตลาดได้ตามมาตรา 65 ทวิ (4)แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับกรณี
การคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในกลุ่มสามารถใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำของ
ธนาคารพาณิชย์เป็นเกณฑ์ในการคำนวณหาดอกเบี้ยอันควรจะได้รับจากการให้กู้ยืมเงิน ดังนั้น หากอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำของธนาคารพาณิชย์ การคิดอัตราดอกเบี้ย
ดังกล่าวถือว่าไม่มีเหตุอันสมควร

เลขตู้

: 65/31430

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161