ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/ก.597

วันที่

: 14 พฤษภาคม 2545

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายค่าบริการที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้า

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 40(8), มาตรา 17, มาตรา 50 ทวิ วรรคสาม, มาตรา 60

ข้อหารือ

: ธนาคารหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของค่าบริการที่ธนาคาร
เรียกเก็บจากลูกค้า ดังนี้
1. กรณีธนาคารรับชำระค่าบริการต่างๆ จากลูกค้าโดยเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าโดยการ
หักบัญชีเงินฝากที่ลูกค้ามีอยู่กับธนาคารโดยอัตโนมัติ ลูกค้าจึงไม่สามารถหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายได้ในทันที
ที่จ่ายค่าบริการ (ทันทีที่ธนาคารหักบัญชีเงินฝากของลูกค้า) โดยลูกค้าจะติดต่อธนาคารเพื่อขอหักภาษี ณ
ที่จ่ายในภายหลัง และอาจทำให้ลูกค้ามีปัญหาในการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง
ภาษีหัก ณ ที่จ่ายไม่ทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนด
2. กรณีธนาคารจะดำเนินการให้ลูกค้าแต่งตั้งให้ธนาคารเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และลงลายมือชื่อใน
หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย พร้อมทั้งยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและชำระภาษีเงินได้หัก
ณ ที่จ่ายแทนลูกค้าผู้จ่ายเงิน โดยทำสัญญาตั้งตัวแทนและมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งธนาคารใน
ฐานะตัวแทนต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินแทนลูกค้า
แต่ละราย และต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้าแต่ละราย แต่เนื่องจากธนาคารมี
ลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำสัญญาตั้งตัวแทนและมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรกับลูกค้า
ทุกรายและไม่อยู่ในวิสัยที่จะออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในนามลูกค้าแต่ละรายเป็นรายฉบับ
ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน และไม่อยู่ในวิสัยที่จะยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้าแต่ละ
รายได้ ธนาคารจึงขอผ่อนผันวิธีการปฏิบัติในเรื่องภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยขออนุโลมใช้หลักเกณฑ์
เดียวกับค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่ธนาคารเรียกเก็บจากร้านค้าผู้รับบัตรเครดิต โดยขอใช้หลักเกณฑ์
ดังกล่าวกับบริการอื่นของธนาคารซึ่งธนาคารมีความพร้อมและได้รับความยินยอมจากลูกค้า

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นจ่ายค่าบริการให้กับ
ธนาคารโดยเป็นการจ่ายผ่านระบบการหักเงินจากบัญชีธนาคารของผู้จ่ายเงิน การจ่ายค่าบริการที่เป็น
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ลูกค้ามีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
ในอัตราร้อยละ 3.0 ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน
ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.
2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.
2544 และลูกค้ามีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้กับธนาคาร ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย
ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย อย่างไรก็ดี เนื่องจากลูกค้าจ่ายค่าบริการผ่านระบบการหักเงิน
จากบัญชีธนาคาร ทำให้ลูกค้าของธนาคารไม่สามารถออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ทันภายใน
เวลาที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของลูกค้า
จึงผ่อนผันให้ลูกค้าซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
สำหรับการจ่ายค่าบริการในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยให้ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ
ที่จ่าย 1 ครั้งต่อเดือน แต่ลูกค้ายังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้ ทั้งนี้
ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีธนาคารจะดำเนินการให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้จ่ายค่าบริการ แต่งตั้งให้ธนาคาร ซึ่งเป็นผู้ถูก
หักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ
ที่จ่าย และลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน พร้อมทั้งยื่นรายการ
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงิน ก็สามารถกระทำได้ โดยจะ
ต้องจัดทำสัญญาการตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ ธนาคารซึ่งเป็น
ตัวแทนจะต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้าและต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก
ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้า หากธนาคารได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนเพื่อดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
แทนลูกค้าหลายๆ ราย ธนาคารจะต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่จ่าย
เงินและต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้าเป็นรายฉบับแต่ละรายลูกค้าด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ธนาคารมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำ
สัญญาการตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่อยู่ในวิสัยจะออก
หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในนามของลูกค้าเป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน และไม่อยู่ใน
วิสัยจะยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในนามของลูกค้าเป็นรายฉบับ จึงให้ธนาคารดำเนินการดังนี้
2.1 กรณีธนาคารได้มีหนังสือแจ้งไปยังลูกค้ารายเดิมของธนาคารโดยมีสาระสำคัญว่า
ธนาคารจะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของค่าบริการแทน ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ
ที่จ่ายแทน และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทน โดยกำหนดระยะเวลาให้ลูกค้าตอบรับ เมื่อลูกค้า
ตอบรับแล้ว ถือว่าหนังสือแจ้งเป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้ธนาคารเป็นตัวแทนแล้ว แต่หากเป็นลูกค้าใหม่จะต้อง
มีข้อกำหนดการแต่งตั้งตัวแทนอย่างชัดเจน
2.2 กรณีธนาคารหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับค่าบริการแทนลูกค้าแล้ว ผ่อนผันให้ลูกค้า
ไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับการจ่ายค่าบริการให้กับธนาคารในทันทีทุกครั้งที่มี
การหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งทำให้ธนาคารไม่ต้องออก
หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรายฉบับทุกครั้งที่จ่ายเงิน แต่ธนาคารต้องจัดทำรายละเอียด
รายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งมีรายการเช่นเดียวกับรายละเอียดที่ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต -
สมาคมธนาคารไทยได้จัดทำขึ้นประกอบการพิจารณาของกรมสรรพากรเพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษี
ณ ที่จ่าย แต่ธนาคารยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้ และให้ธนาคาร
ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย การจัดทำบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย
ตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฎากร และการใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงิน
ของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีตามมาตรา 60 แห่ง
ประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับแนวปฏิบัติที่กรมสรรพากรแจ้งให้ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคาร
ไทยทราบ

เลขตู้

: 65/31418

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161