ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ./2977

วันที่

: 4 เมษายน 2545

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการแจ้งเลิกและโอนกิจการ

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 77/1(8), มาตรา 77/1(8)(ฉ), มาตรา 77/2(1), มาตรา 78/1, มาตรา 82/4

ข้อหารือ

: กรณีนาง พ. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มประกอบกิจการขายเครื่องอุปโภคบริโภค
และสินค้าเบ็ดเตล็ดได้แจ้งเลิกกิจการเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2543 โดยระบุว่าเลิกกิจการตั้งแต่วันที่ 4
สิงหาคม 2543 และโอนขายสินค้าและทรัพย์สินในร้านทั้งหมดในวันเดียวกันให้แก่บุคคลอื่น 3 รายซึ่งได้
แบ่งแยกส่วนแต่ละประเภทกิจการอย่างชัดเจนให้แก่ผู้รับโอนแต่ละราย โดยนาง พ. ได้นำมูลค่าสินค้า
คงเหลือและทรัพย์สินในร้าน ณ วันเลิกประกอบกิจการไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว สำนักงาน
สรรพากรภาค 11 หารือว่าการโอนสินค้าและทรัพย์สินกรณีดังกล่าวจะถือว่าเป็นการ "ขาย" ซึ่งอยู่ใน
บังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1(8)(ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่

แนววินิจฉัย

: กรณีการโอนกิจการที่ต้องมีการโอนทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการหรือโอนสินค้าซึ่งจะเข้า
ลักษณะเป็นการ "ขาย" ตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่นั้นแยกพิจารณาดังนี้
1. กรณีผู้ประกอบการโอนกิจการไปแล้วและผู้ประกอบการยังคงตั้งอยู่เพื่อดำเนิน กิจการอื่น
ต่อไปหรือมีรายได้จากการประกอบกิจการอื่นซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม การโอนกิจการ
ดังกล่าวถือว่าเป็นการโอนกิจการบางส่วน เข้าลักษณะเป็นการ "ขาย" ตามมาตรา 77/1(8)แห่ง
ประมวลรัษฎากร ผู้โอนกิจการมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้รับโอนกิจการ ตามมาตรา 82/4
แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีผู้ประกอบการโอนกิจการไปแล้วและได้แจ้งเลิกกิจการหรือยังคงอยู่ต่อไปแต่ มิได้
ประกอบการอื่นอันอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่มีรายได้อื่นอันอยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม การโอนกิจการดังกล่าวถือเป็นการโอนกิจการทั้งหมดไม่เข้าลักษณะเป็นการ "ขาย"ตาม
มาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้โอนกิจการไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา
77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร
เนื่องจากข้อเท็จจริงปรากฏว่านาง พ. ได้ออกใบเสร็จรับเงินสำหรับการขายสินค้าและ
ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการเดิมของตนให้แก่ผู้รับโอนทั้ง 3 ราย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2543
และผู้รับโอนทั้ง 3 รายได้จดทะเบียนพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2543 ทั้งนาง พ. ได้ยื่นแบบ
แจ้งการเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.09) เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2543 โดยระบุว่าเลิก
ประกอบกิจการเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2543 กรณีดังกล่าวนาง พ. ได้ขายสินค้าและทรัพย์สินที่ใช้ในการ
ประกอบกิจการก่อนการแจ้งเลิกประกอบกิจการต่อกรมสรรพากร ดังนั้น นาง พ. จึงมีหน้าที่ต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีทันทีเมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ตามมาตรา
78(1) และมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร หากนาง พ. มิได้ออกใบกำกับภาษีเมื่อความรับผิดในการ
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น นาง พ. มีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 90/2(3) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ต่อมาเมื่อ นาง พ. ยื่นแบบ ภ.พ.09 แจ้งเลิกประกอบกิจการในวันที่ 17 สิงหาคม
2543 และมิได้ประกอบกิจการอื่นที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หากปรากฏว่านาง พ. ขายสินค้า
คงเหลือและหรือทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการไปหมดแล้ว นาง พ. จึงไม่มีสินค้าคงเหลือและหรือ
ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการ ณ วันเลิกประกอบกิจการ นาง พ. มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ของเดือนภาษีสิงหาคม 2543 สำหรับยอดขายสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สิน
ที่ได้ขายไปทั้งหมดในวันที่ 4 สิงหาคม 2543 ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่านาง พ. ได้นำมูลค่าของสินค้า
คงเหลือและทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการทั้งหมดไปยื่นแบบภ.พ.30 แล้ว นาง พ. จึงไม่ต้องรับผิด
เสียเบี้ยปรับตามมาตรา 89(3) มาตรา 89(4) และมาตรา 89(5)แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 65/31354

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161