ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811(กม.03)/379

วันที่

: 1 เมษายน 2545

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ของคนประจำเรือ

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 70, กฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539)ฯ

ข้อหารือ

: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีได้ขอให้กรมสรรพากรพิจารณาสนับสนุนกิจการ
การพาณิชยนาวีดังนี้
ข้อ 1 ขยายระยะเวลาการลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้
ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ
ลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 ออกไปอีก 5 ปี จากเดิมที่กำหนดระยะเวลา
ลดหย่อนอัตราภาษีดังกล่าวไว้ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2539 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2544 เพื่อเป็นการ
สร้างเสริมความสามารถในการหาตลาดและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อให้กองเรือพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้น
โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีเห็นว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการเรือไทยด้วยการ
ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศลงเหลือ
ร้อยละ 1 ยังมีความจำเป็นอยู่ เนื่องจาก
(1) การเดินเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก โดย
เฉพาะอย่างยิ่งการซื้อเรือ
(2) การเช่าเรือต่างชาติและมีสิทธิเสมือนเรือไทยตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติ
ส่งเสริมการพาณิชยนาวี พ.ศ. 2521 เป็นการให้สิทธิการเช่าเรือโดยไม่เกิน 2 เท่าของระวางเรือ
ไทยที่ให้บริการในเส้นทางนั้น ซึ่งวัตถุประสงค์ของมาตรการดังกล่าว เพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถในการ
ให้บริการแก่เรือไทย เนื่องจากการมีอยู่ของบริการในระยะเวลาที่ต้องการใช้บริการเป็นปัจจัยสำคัญใน
การใช้บริการ นอกจากนั้น ยังเป็นไปเพื่อให้สินค้าราชการ/รัฐวิสาหกิจที่ต้องขนโดยเรือไทยในเส้นทาง
บังคับสามารถส่งมอบได้ทันการ ไม่เกิดความเสียหายแก่ราชการ/รัฐวิสาหกิจผู้ใช้บริการ
(3) การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ขนส่งสินค้า
ระหว่างประเทศตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแล้วข้างต้นเป็นการลดหย่อนให้เฉพาะกับการเช่าเรือ
ต่างชาติเพื่อมาเสริมระวางเรือของเรือไทยที่ให้บริการอยู่ ซึ่งการอนุญาตให้เช่าดังกล่าว สำนักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีได้พิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องมีการเช่าเรือดังกล่าวซึ่งเป็นไป
เพื่อประโยชน์ในการขนสินค้านำเข้าของภาคราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และประโยชน์ในการพัฒนาและ
ขยายกองเรือพาณิชย์ไทยในระยะยาวต่อไป กล่าวคือ
- เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียแก่ราชการหรือรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นเจ้าของสินค้าไม่ให้ได้
รับความเสียหายจากความล่าช้าหรือไม่สามารถขนสินค้าได้ทันกับความต้องการของทางราชการ
- เพื่อเป็นการสงวนรายได้ค่าระวางเรือให้อยู่ในประเทศ
- เพื่อเป็นการประหยัดค่าขนส่งสินค้า
เนื่องจากโดยปกติผู้เช่าเรือ (บริษัทเรือไทย) ต้องเป็นผู้เสียภาษีให้แก่เจ้าของเรือต่างชาติที่เช่ามาซึ่ง
จะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนค่าขนส่งของเรือไทย
ดังนั้นเพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระการลงทุนให้กับผู้ประกอบการเรือไทยที่ในการให้บริการ
จำเป็นต้องมีเรือจำนวนหลายลำเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการแข่งขันทั้งด้าน
ความถี่และราคาการบริการ ประกอบกับกิจการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ
และความสามารถของการแข่งขันในการส่งออกของประเทศในระยะยาว สำนักงานคณะกรรมการ
ส่งเสริมการพาณิชยนาวีจึงได้ขอขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่จ่ายให้แก่เรือเช่าต่างประเทศออกไปอีก 5 ปี
ข้อ 2 การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางเรือของเจ้าของเรือไทยจำนวนมากมีการให้บริการ
ขนส่งสินค้าในสองลักษณะบนเรือลำเดียวกัน กล่าวคือในบางเที่ยวเรือจะขนส่งสินค้าจากที่แห่งหนึ่งใน
ราชอาณาจักรไปยังที่แห่งหนึ่งนอกราชอาณาจักร (การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ) แต่ในบางเที่ยวเรือ
เป็นการขนสินค้าจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งภายในราชอาณาจักร ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับรายได้
ของคนประจำเรือนั้นว่าจะได้รับการปฏิบัติในเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 204
(พ.ศ. 2539) อย่างไร ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีเห็นว่า ปัจจุบันคนประจำ
เรือพาณิชย์มีความขาดแคลนและมีผู้สนใจเรียนน้อยและอยู่ในอาชีพคนเรือไม่นาน เนื่องจากเป็นอาชีพที่มี
ความเสี่ยงสูง ทั้งจากภัยธรรมชาติ และภัยโจรสลัด และการทำงานบนเรือพาณิชย์ต้องการผู้ที่มีความรู้ที่
ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล โดยในปัจจุบันคนประจำเรือพาณิชย์ทุกคนทั้งเรือเดินในประเทศและ
ระหว่างประเทศต้องมีประกาศนียบัตรวิชาชีพตามระดับตำแหน่งงานในเรือ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตาม
ชนิดและขนาดเรือรวมถึงขอบเขตการเดินเรือ และในการเลื่อนระดับชั้นตำแหน่งก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่
กำหนดไว้ในแต่ละระดับ ซึ่งขั้นตอนและความก้าวหน้าในอาชีพต้องมีครบทั้งประสบการณ์และความรู้ที่จะ
สามารถใช้เลื่อนชั้นประกาศวิชาชีพได้ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการพาณิชยนาวีโดยเฉพาะ
การขยายกองเรือพาณิชย์ไทย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีกำลังคนประจำเรือที่เพียงพอและมีคุณภาพเพื่อรองรับ
การขยายตัวของกองเรือพาณิชย์ไทยอย่างยั่งยืน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีจึงได้ขอให้กรมสรรพากร
พิจารณาให้ยกเว้นภาษีเงินได้คนประจำเรือเป็นการทั่วไป ไม่เฉพาะเรือเดินระหว่างประเทศ เพื่อเป็น
การส่งเสริมและพัฒนากิจการพาณิชยนาวีของไทยให้สามารถขยายกองเรือได้สมดังวัตถุประสงค์การ
ส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศ โดยให้การสนับสนุนอาชีพคนประจำเรือไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานบน
เรือเดินในประเทศหรือระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการจูงใจให้มีผู้เรียนและเข้าสู่อาชีพมากขึ้นโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งคนเก่งรวมถึงเป็นสิ่งจูงใจให้คนทำงานในเรือพาณิชย์นานขึ้นด้วย

แนววินิจฉัย

: 1. พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดและยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 ได้ตราขึ้นด้วยเหตุผลว่าโดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้ที่นำมา
คำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่า
เรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศให้มี
การพัฒนาและขยายกองเรือเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เฉพาะค่าเช่าเรือที่มีการจ่ายระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม
2539 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2544 รวม 5 ปี ซึ่งปัจจุบันได้พ้นกำหนดระยะเวลาการลดภาษีสำหรับ
เงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศตามพระราชกฤษฎีกาฯ
ฉบับดังกล่าวแล้ว
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศที่ได้รับเงินได้พึงประเมินจากค่าเช่าเรือเดินทะเลที่
ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศจะต้องเสียภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้จ่ายมีหน้าที่
ต้องหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 การลดภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็น
ค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศลง
คงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 1 นั้น กระผมมีความเห็นว่าเพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระการลงทุนให้แก่
ผู้ประกอบการเรือไทยที่จำเป็นต้องมีเรือหลายลำในการประกอบกิจการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ
แต่ผู้เช่าเรือต้องเป็นผู้เสียภาษีแทนเจ้าของเรือต่างชาติที่เช่ามาซึ่งผู้เช่าเรือก็ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของ
ต้นทุนค่าขนส่ง จึงเห็นสมควรขยายเวลาการลดอัตราภาษีเงินได้จากค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ใน
การขนส่งระหว่างประเทศให้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีร้องขอ แต่ทั้งนี้
เนื่องจากการลดอัตราภาษีลงอาจมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีอากรของรัฐได้ ดังนั้น จึงเห็นควรส่ง
เรื่องให้ สผ.พิจารณาก่อนที่จะได้ดำเนินการต่อไป
2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539) บัญญัติให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับ "เงินได้
ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทย ตามกฎหมาย
ว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ" ซึ่งกรมสรรพากรได้เคย
วินิจฉัยไว้ว่า กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นกรณีการส่งเสริมการขนส่งทางทะเลที่กระทำเป็นอาชีพหรือเป็น
ปกติโดยเฉพาะ หากได้ใช้เรือไทยเพื่อการขนส่งสินค้าในน่านน้ำไทยเป็นประจำ และใช้เรือไทยเพื่อ
การขนส่งไปยังต่างประเทศเป็นครั้งคราว จะไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงนี้ กระผมมีความเห็นว่า
เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตาม
กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นเงินได้ที่ได้รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทยที่ใช้ใน
การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเท่านั้น หากเป็นเงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้
รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศบ้างและขนส่งสินค้าใน
ประเทศบ้างจะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว

เลขตู้

: 65/31347

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161