ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/พ./853

วันที่

: 30 มกราคม 2545

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอเปลี่ยนแปลงวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อและขอขยายเวลาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 81(1)(น), มาตรา 81/3(1), มาตรา 82/5(6)

ข้อหารือ

: บริษัท จ. จำกัด ขอเปลี่ยนแปลงวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อ และขอขยายระยะเวลาการขอคืน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้
1. บริษัทฯ ประกอบกิจการขายส่ง ขายปลีก ให้บริการระบบจำหน่ายสลากอัตโนมัติ และวัสดุ
อุปกรณ์เกี่ยวกับงานดังกล่าว
2. บริษัทฯ ได้ทำสัญญากับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2539 เป็น
ผู้แทนจำหน่ายสลากบำรุงการกุศลแบบอัตโนมัติ (ระบบ ON LINE) โดยบริษัทฯ จะต้องจัดหาและติดตั้ง
เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติจำนวน 5,000 เครื่อง ตามระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ ต้องประกัน
การจำหน่ายสลากแต่ละงวดให้ได้ไม่น้อยกว่า 14 ล้านฉบับ และเป็นเงินไม่น้อยกว่า 560 ล้านบาท และ
ต้องจำหน่ายไม่เกินกว่าปริมาณสูงที่สำนักงานฯ จะกำหนดให้ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับ ผลตอบแทนในอัตรา
ร้อยละ 9 ของยอดจำหน่ายสลากที่บริษัทฯ จำหน่ายได้ทั้งหมด หากไม่หมดบริษัทฯ จะต้องชำระเงินค่า
สลากส่วนที่ขาดหลังจากหักส่วนลดร้อยละ 9 แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯ มีสิทธิแต่งตั้งหรือมอบหมายให้
บุคคลอื่นเป็นผู้แทนจำหน่ายย่อย ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นและลักษณะตามที่กำหนดไว้ในข้อเสนอที่ต้อง
แจ้งให้สำนักงานฯ ทราบ
3. บริษัทฯ ได้ประมาณการรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และไม่ต้องเสียภาษี มูลค่าเพิ่มใน
อัตราส่วน 20:80 และได้ยื่นแบบ ภ.พ.30 ตั้งแต่เดือนภาษีมีนาคม 2540 - พฤศจิกายน 2542 และ
บริษัทฯ ขอคืนภาษีซื้อทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2542 เป็นต้นมา ต่อมา สำนักงานฯ ไม่สามารถ
จัดให้บริษัทฯ เข้าดำเนินการตามสัญญาได้และบอกเลิกสัญญากับบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2542
บริษัทฯ จึงขอยกเลิกสัญญาดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2542 ทำให้บริษัทฯ ไม่มีรายได้ที่ไม่ต้อง
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการประกอบกิจการดังกล่าวอีกต่อไป จึงได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงการเฉลี่ยภาษีซื้อใหม่
ตามที่เคยยื่นไว้ในอัตรา 20:80 มาเป็นการยื่นภาษีซื้อ 100% ดังนี้
3.1 ภาษีซื้อในส่วนที่ได้จ่ายไปแล้ว 80% แต่ไม่ได้ขอคืนภาษีซื้อไว้ ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม
2540 - 10 พฤศจิกายน 2542 บริษัทฯ จะขอยื่นแบบ ค.10 ย้อนหลังในส่วนที่ไม่เกิน 3 ปี
3.2 ภาษีซื้อในส่วนที่จ่ายไปแล้ว 80% แต่ไม่ได้ขอคืนภาษีซื้อไว้ ตั้งแต่วันที่ 11
พฤศจิกายน 2542 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะขอยื่นภาษีซื้อ 100%
4. ต่อมาบริษัทฯ ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2544 ขอขยายเวลาการ ขอคืน
ภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนที่จ่ายไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2540 ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2542 ทั้งหมด
รวมส่วนที่เกิน 3 ปี เนื่องจากบริษัทฯ เข้าใจข้อกฎหมายคลาดเคลื่อนทำให้บริษัทฯ ไม่ได้ขอขยาย
ระยะเวลาในการขอคืนตั้งแต่แรก
5. สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ได้ตรวจสอบรายงานภาษีซื้อและใบกำกับภาษี ตั้งแต่เดือนภาษี
มีนาคม 2540 - พฤศจิกายน 2542 ไม่พบภาษีซื้อต้องห้าม ภาษีซื้อที่ขอคืนมีเพียงร้อยละ 20 จริงและ
ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสำนักงาน ค่าโทรศัพท์ และค่ารักษาความสะอาด เป็นต้น และสำนักงาน
ภาษีสรรพากรพื้นที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การประกอบกิจการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยเครื่อง
จำหน่ายสลากอัตโนมัติ เป็นการประกอบกิจการขายสินค้าที่ได้รับ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 3(2)
แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ดังนั้น ภาษีซื้อจากการประกอบกิจการดังกล่าว จึง
ไม่สามารถนำมาขอคืนได้สำนักงานสรรพากรภาคได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทฯ จะขอเปลี่ยนแปลงการ
เฉลี่ยภาษีซื้อจากเดิม 20:80 เป็น 100% ก็ต่อเมื่อบริษัทฯ ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษี มูลค่า
เพิ่มเกี่ยวกับประเภทกิจการที่จะประกอบการซึ่งต้องเป็นกิจการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มชัดเจน เนื่องจากเดิม
บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแจ้งการขายส่ง ขายปลีก ให้บริการระบบจำหน่ายสลากอัตโนมัติ และวัสดุอุปกรณ์
เกี่ยวกับงานดังกล่าว ซึ่งการจำหน่ายสลากได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(น) แห่ง
ประมวลรัษฎากร และตามมาตรา 3(2) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 239) พ.ศ.2534 บริษัทฯ จึง
ไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ตามมาตรา 81/3 แห่งประมวลรัษฎากร
ส่วนวัสดุอุปกรณ์อยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเป็น กิจการเดียวที่บริษัทฯ ได้จดแจ้งไว้และเมื่อ
บริษัทฯ ยกเลิกสัญญา ไม่มีการจำหน่ายสลากก็ย่อมไม่มีวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับงานดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ดังนั้น บริษัทฯ จะเปลี่ยนแปลงการเฉลี่ยภาษีซื้อเป็น 100% ไม่ได้จนกว่าบริษัทฯ ได้จดทะเบียนระบุ
กิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มชัดเจนก่อนส่วนกรณีการขอขยายระยะเวลาการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ไม่
สามารถขยายได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายในประมวลรัษฎากร ระบุให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากรกระทำได้

แนววินิจฉัย

: กรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการขายส่ง ขายปลีก ให้บริการระบบจำหน่ายสลากอัตโนมัติและวัสดุ
อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานดังกล่าว และบริษัทฯ ได้ทำสัญญากับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็น
ผู้แทนจำหน่ายสลากบำรุงการกุศลแบบอัตโนมัติ (ระบบ ON LINE) ซึ่งการประกอบกิจการจำหน่าย
สลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(น) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับ
มาตรา 3(2) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 และการจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เป็น
กิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร จึงเป็นการ
ประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ จึง
ไม่มีสิทธิขอคืนภาษีซื้อที่เกิดจากการประกอบกิจการทั้งจำนวน แต่ต้องเฉลี่ยภาษีซื้อที่จะนำไปหักออกจาก
ภาษีขายตามมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งตามข้อเท็จจริงบริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.พ.30 ตั้งแต่
เดือนภาษีมีนาคม 2540 - เดือนภาษีพฤศจิกายน 2542 โดยแสดงยอดซื้อที่มีสิทธินำภาษีซื้อมาหักใน
การคำนวณภาษีในเดือนภาษีเพียงร้อยละ 20 เนื่องจากบริษัทฯ ประมาณการรายได้ที่ต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วน 20:80 ตามข้อ 2 ของ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535
ต่อมาสำนักงานฯ ไม่สามารถจัดให้บริษัทฯ เข้าดำเนินการตามสัญญาได้ จึงเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 11
พฤศจิกายน 2542 ทำให้บริษัทฯ ไม่มีรายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการประกอบกิจการดังกล่าว
อีกต่อไป ดังนั้น ในการยื่นแบบ ภ.พ.30 เดือนภาษีพฤศจิกายน 2542 บริษัทฯ จึงแสดงยอดซื้อที่มีสิทธินำ
ภาษีซื้อมาหักในการคำนวณภาษีสำหรับก่อนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2542 โดยการเฉลี่ยภาษีซื้อในอัตราส่วน
20:80 และยอดซื้อที่มีสิทธินำภาษีซื้อมาหักในการคำนวณภาษีตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2542 ทั้งจำนวน
สำหรับการยื่นแบบ ภ.พ.30 เดือนภาษีธันวาคม 2542 เป็นต้นไป บริษัทฯ แสดงยอดซื้อที่มีสิทธินำภาษีซื้อ
มาหักในการคำนวณภาษีทั้งจำนวน 100% กรณีดังกล่าว
1. การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 8 1(1)(น) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3(2) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 และ
เป็นกิจการที่ไม่มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ตามมาตรา 81/3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ ทรัพย์สินเพื่อใช้หรือจะใช้
ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีซื้อที่เกิดจาก รายจ่ายของกิจการประเภทที่ไม่ต้อง
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว จึงเป็นภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา
82/5(6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42)ฯ ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2535 บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิขอคืนภาษีซื้อใน
ส่วนที่ได้จ่ายไปแล้ว 80% สำหรับกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษี มูลค่าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2540 -
10 พฤศจิกายน 2542 ได้
2. กรณีบริษัทฯ ขอเปลี่ยนแปลงวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อจากเดิม 20:80 เป็น 100% นั้น เมื่อ
บริษัทฯ มิได้ประกอบกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกต่อไป แต่ได้ประกอบ กิจการประเภทที่
ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยแจ้งเปลี่ยนแปลงประเภทของการประกอบการเป็น ขายส่ง ขายปลีก
เครื่องมือสื่อสาร เครื่องโทรคมนาคม เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ แบบพิมพ์ ตลอดจนอุปกรณ์และ
อะไหล่ของสินค้าดังกล่าวทุกชนิดทุกประเภท ให้บริการให้คำปรึกษา แนะนำรับบริหารงานโครงการต่าง ๆ
ตลอดจนเป็นนายหน้า ตัวแทนในกิจการอื่น ๆ ทุกประเภท บริษัทฯ จึงมีสิทธิขอคืนภาษีซื้อที่เกิดจาก
กิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ทั้งจำนวน โดยไม่ต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้
เปลี่ยนแปลงวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อแต่อย่างใด

เลขตู้

: 65/31241

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161