ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/9105

วันที่

: 17 กันยายน 2544

เรื่อง

: ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการซ่อมรถยนต์ที่อยู่ในระหว่างสัญญารับประกันความเสียหาย

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 77/1(10), มาตรา 77/2, มาตรา 86, มาตรา 82/5, มาตรา 82/3, มาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ

ข้อหารือ

: บริษัทฯ ประกอบกิจการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ BMW แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดย
บริษัทฯ จะดำเนินการสั่งซื้อรถยนต์ที่ผลิตและประกอบในต่างประเทศจาก บริษัท A ตั้งอยู่ในประเทศ
เยอรมัน และที่ประกอบในประเทศจากบริษัท B จำกัด เนื่องจากการซื้อขายทั้ง 2 กรณีดังกล่าวเป็นการ
ซื้อขายภายในกลุ่มบริษัท จึงไม่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายเป็นลายลักษณ์อักษร ในการจำหน่ายรถยนต์ BMW
ในประเทศไทย บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอิสระ โดยจัดทำเป็นสัญญา 2 ฝ่ายตามรายละเอียดดัง
ต่อไปนี้
(1) กรณีตัวแทนจำหน่ายซื้อรถยนต์จากบริษัทฯ และชำระราคาก่อนหรือเมื่อได้ รับรถยนต์หรือ
ตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ จะรับประกันความเสียหายอันเนื่องจากขั้นตอนการผลิตรถยนต์เป็นเวลา
12 เดือนนับแต่วันจดทะเบียนรถยนต์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับประกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนตลอด
ระยะเวลารับประกันรถยนต์
(2) กรณีตัวแทนจำหน่ายขายรถยนต์ให้กับลูกค้า ตัวแทนจำหน่ายจะต้องรับประกัน
ความเสียหายต่อลูกค้าอย่างน้อยเท่ากับมาตรฐานที่บริษัทฯ ได้ให้กับตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้ ตัวแทนจำหน่าย
และลูกค้าจะต้องกรอกรายละเอียด ลงนามในเอกสารรับประกัน และส่งสำเนาคืนให้บริษัทฯ ภายใน 14
วันนับแต่วันที่ขาย (ส่งมอบ) เพื่อให้การรับประกันมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม การ ซื้อขายรถยนต์
ระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับลูกค้าจะไม่มีการจัดทำสัญญาซื้อขายเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงหลักฐานเรียก
ชำระเงินและใบเสร็จรับเงิน พร้อมเอกสารรับประกันที่ลงนามโดยตัวแทนและลูกค้าตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ
กำหนด
(3) กรณีรถยนต์เกิดความเสียหายและทำการซ่อมภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน ลูกค้า
สามารถนำรถยนต์เข้ารับการซ่อมกับตัวแทนจำหน่ายรายใดก็ได้ที่สัญญากับบริษัทฯ โดย ลูกค้าไม่ต้องเสีย
ค่าบริการซ่อม ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายที่รับซ่อมรถยนต์สามารถเรียกเก็บเงินจากบริษัทฯ สำหรับค่าใช้จ่ายที่
เกิดขึ้นจากการซ่อมรถยนต์ให้กับลูกค้า และบริษัทฯ สามารถทำการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่บริษัทฯ ได้จ่าย
ให้กับตัวแทนจำหน่ายจากบริษัท A ตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมัน หรือ บริษัท B จำกัด แล้วแต่กรณี
บริษัทฯ หารือว่า
1. เงินชดเชยที่บริษัทฯ จ่ายคืนให้แก่ตัวแทนจำหน่ายที่ทำการซ่อมรถยนต์ซึ่งอยู่ในระหว่าง
สัญญารับประกันความเสียหาย ตัวแทนจำหน่ายจะต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และบริษัทฯ จะต้อง
หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่
2. เงินชดเชยที่บริษัทฯ เรียกและเก็บจากบริษัท A หรือบริษัท B จำกัด สำหรับการจ่ายให้
กับตัวแทนจำหน่ายที่ทำการซ่อมรถยนต์ให้กับลูกค้าภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน บริษัทฯ มีหน้าที่ต้อง
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และบริษัท B จำกัด มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีลูกค้าได้นำรถยนต์ไปรับบริการซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ที่ตัวแทนจำหน่ายรายใด ๆ ซึ่งมี
สัญญากับบริษัทฯ ในระหว่างสัญญารับประกันความเสียหายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ถือเป็น
การปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างบริษัทฯ กับตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจำหน่ายไม่มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี
ให้แก่ลูกค้าสำหรับการให้บริการดังกล่าว กรณีเงินชดเชยที่บริษัทฯ จ่ายให้กับตัวแทนจำหน่าย ถือเป็นการ
จ่ายค่าตอบแทนจากการให้บริการ ตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร ตัวแทนจำหน่ายจึงต้อง
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีให้บริษัทฯ ทั้งนี้ ตามมาตรา 77/2 และมาตรา 86 แห่ง
ประมวลรัษฎากร ใบกำกับภาษีดังกล่าวหากไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ
มีสิทธินำไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีได้ ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
อนึ่ง เนื่องจากเงินชดเชยที่ตัวแทนจำหน่ายได้รับคืนจากบริษัทฯ ถือเป็นเงินได้จากการ
รับจ้างทำของ ตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินได้มี
หน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 8(2) ของ
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่ง
ประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528
2. กรณีบริษัทฯ เรียกเก็บเงินชดเชยหรือค่าบริการคืนจากบริษัท B จำกัด สำหรับการจ่ายให้
กับตัวแทนจำหน่ายที่ทำการซ่อมรถยนต์ให้กับลูกค้าภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน การจ่ายเงินชดเชย
ดังกล่าวเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าที่บริษัทฯ ได้รับคืน เงินชดเชยดังกล่าวจึงไม่ถือเป็นค่าตอบแทน
จากการขายสินค้าหรือให้บริการ ตามมาตรา 77/1(8) และมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร
บริษัทฯ จึงไม่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัท B จำกัด และเงินชดเชยดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็น
เงินได้จากการรับจ้างทำของ ตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัท B จำกัด
จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

เลขตู้

: 64/30927


clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161