ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/7656

วันที่

: 2 สิงหาคม 2544

เรื่อง

: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้จากการเกษียณอายุก่อนกำหนด

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 42(17), 48(5)

ข้อหารือ

: นาย A และนาง B คู่สมรสได้ลาออกจากงานในปี พ.ศ. 2543 ตามโครงการสมัครใจ
เกษียณอายุก่อนกำหนดของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) บุคคลทั้งสองได้แยก
ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ของปีภาษี พ.ศ. 2543 โดยแสดงเงินได้ดังนี้ นาย A มีเงินได้เงินเดือน
422,550 บาท โบนัสและเงินเพิ่มพิเศษ 165,655 บาท บำเหน็จ 1,173,750 บาท เงินชดเชย
281,700 บาท ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 1,408,500 บาท ส่วนนาง B มีเงินได้จากเงินเดือน
365,910 บาท ค่าล่วงเวลา 5,678.44 บาท โบนัสและเงินเพิ่มพิเศษ 140,385 บาท บำเหน็จ
1,274,720 บาท เงินชดเชย 246,720 บาท ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 1,233,600บาท ตามแบบ
ภ.ง.ด.91 ของบุคคลทั้งสอง ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีสำหรับเงินชดเชยจำนวน 300,000 บาท ตาม
กฎกระทรวง (ฉบับที่ 126) พ.ศ. 2509 ฯ เพราะเป็นโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดไม่ได้เขียน
ใบลาออกเอง ส่วนเงินบำเหน็จที่รับจากธนาคารฯ ได้นำไปกรอกในข้อ 1 ของใบแนบแบบ ภ.ง.ด.91
โดยไม่นำไปรวมกับเงินได้อื่นเมื่อคำนวณภาษี เพราะเห็นว่าเป็นเงินได้ที่คำนวณเช่นเดียวกับบำเหน็จ
ข้าราชการ
สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ เห็นว่า ไม่มีหน่วยงานใดใช้วิธีคำนวณบำเหน็จตามหลักเกณฑ์
และวิธีการเช่นเดียวกับการคำนวณบำเหน็จข้าราชการได้ทั้งหมด เงินบำเหน็จดังกล่าวจึงควรเป็นเงินได้
ที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างจากบำเหน็จข้าราชการ สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หารือว่า
1. กรณีลูกจ้างสมัครใจเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดเช่นกรณีนี้เงินชดเชยจะได้รับสิทธิ
ยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ 300,000 บาท ตามกฎกระทรวง (ฉบับที่ 126) พ.ศ. 2509 ฯ หรือไม่
2. กรณีเงินบำเหน็จที่บุคคลทั้งสองดังกล่าวได้รับ ถือว่าเป็นเงินได้ซึ่งมีวิธีคำนวณแตกต่างจาก
การคำนวณบำเหน็จข้าราชการหรือไม่ เพราะเหตุใด
สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่า การเกษียณอายุก่อนกำหนดถือว่าเป็นการสมัครใจลาออกจาก
งาน เงินชดเชยที่บุคคลทั้งสองได้รับจากการเกษียณอายุก่อนกำหนดจึงไม่ได้รับยกเว้น
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามข้อ 2(51) ของกฎกระทรวง (ฉบับที่ 126) พ.ศ. 2509 ฯ สำหรับ
เงินบำเหน็จที่บุคคลทั้งสองได้รับเป็นเงินได้ที่คำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการเช่นเดียวกับการคำนวณ
บำเหน็จตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ตามข้อ 1(ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535
สำนักงานสรรพากรภาค จึงขอให้กรมสรรพากรพิจารณาข้อหารือดังกล่าวแล้วแจ้งผลให้ทราบ

แนววินิจฉัย

: 1. กรณีนาย A และนาง B ได้มีหนังสือแสดงความประสงค์เกษียณอายุก่อนกำหนด ถือได้ว่า
เป็นการสมัครใจออกจากงาน ดังนั้น เงินที่บุคคลทั้งสองได้รับจากธนาคารฯ นายจ้างในกรณีดังกล่าว จึง
ไม่เข้าลักษณะเป็นค่าชดเชยที่พนักงานได้รับตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ตามข้อ
2(51) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 217
(พ.ศ. 2542)ฯ จึงไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามมาตรา 42(17) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. กรณีเงินบำเหน็จที่คำนวณแบบข้าราชการที่บุคคลทั้งสองได้รับจากธนาคารฯนายจ้าง
เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดใช้วิธีการคำนวณบำเหน็จตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณบำเหน็จตาม
กฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการได้ทั้งหมด และเงินบำเหน็จที่บุคคลทั้งสองได้รับก็มิได้ใช้วิธีการ
คำนวณบำเหน็จตามหลักเกณฑ์และวิธีการเช่นเดียวกับวิธีการคำนวณบำเหน็จตามกฎหมาย ว่าด้วยบำเหน็จ
บำนาญข้าราชการได้ทั้งหมดเช่นกัน ดังนั้น เงินบำเหน็จดังกล่าวจึงถือเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียว
เพราะเหตุออกจากงานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการตามข้อ 1 (ก) จึงถือเป็น
เงินได้พึงประเมินตามข้อ 1(ง) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ
ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535 ซึ่งผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวจะเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจาก
เงินได้อื่นได้ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 64/30739


clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161