ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/7405

วันที่

: 26 กรกฎาคม 2544

เรื่อง

: ภาษีอากรค้าง กรณีการอายัดเงินค่าจ้าง

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 12

ข้อหารือ

: บริษัท ธ. จำกัดถูกสำนักงานสรรพากรจังหวัดแพร่ประเมินภาษีอากร จำนวน
3,044,585 บาท บริษัทฯ ได้มารับจ้างงานกับสำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราชและถูก
สรรพากรจังหวัดนครศรีธรรมราชอายัดเงินค่าจ้างดังกล่าว จึงได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ
การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบของ
เจ้าหน้าที่ทางราชการ สำนักงานสรรพากรจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงขอให้กรมสรรพากรพิจารณาว่า
การดำเนินการอายัดเงินค่าจ้างของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสรรพากร เป็นการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1 พิจารณาตามประมวลรัษฎากร
กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ได้ถูกจังหวัดแพร่ประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,044,585 บาท (ยังไม่รวมเงินเพิ่ม) เมื่อบริษัทฯ มิได้นำเงินมา
ชำระภาษีตามการประเมินเรียกเก็บเมื่อถึงกำหนดชำระแล้ว ให้ถือเป็นหนี้ภาษีอากรค้างในจังหวัดอื่น
นอกจากกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชมีอำนาจเช่นเดียวกับอธิบดีกรมสรรพากร
ในเขตท้องที่จังหวัดสั่งยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรโดยมิต้องขอ
ให้ศาลออกหมายยึดหรือสั่ง ตามมาตรา 12 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีคำสั่งอายัดเงินค่าจ้างค้างชำระหรือยังไม่ครบกำหนดชำระ
ที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่บริษัทฯ จำนวนเงิน 2,065,392 บาท ถือว่าเป็นการปฏิบัติตาม
กฎหมายดังกล่าวแล้ว
กรณีเงินประกันสัญญาจ้างซึ่งบริษัทฯ เป็นเจ้าของเงินที่นำมาวางไว้เป็นหลักประกันและเงิน
อื่นใดที่จะได้รับตามสัญญาจ้างอันเป็นเงินที่บริษัทฯ เป็นผู้ได้รับเมื่อสิ้นสุดแห่งสัญญา ดังกล่าว เมื่อ
กรรมสิทธิ์ในเงินจำนวนดังกล่าวยังคงเป็นของบริษัทฯ กรมสรรพากรในฐานะเจ้าหนี้ภาษีอากร จึงชอบที่
จะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร
ดังนั้น การอายัดเงินค่าจ้างของบริษัทฯ ดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายตาม
มาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบด้วยระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการอายัดทรัพย์สินตามความ
ในมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2539
2. พิจารณาตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
กรณีนี้ใบแจ้งการประเมิน ถือเป็นคำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือที่อาจอุทธรณ์หรือโต้แย้งได้
และเป็นคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงิน ถ้าถึงกำหนดแล้วไม่มีการชำระโดยถูกต้องครบถ้วน
เจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้นั้นและขายทอดตลาดเพื่อ
ชำระเงินให้ครบถ้วน การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5(1),
มาตรา, 34 มาตรา 40, มาตรา 44 และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. 2539 โดยผู้มีอำนาจทำคำสั่งทางปกครองจะเป็นผู้มีอำนาจยึดหรืออายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ของผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งทางปกครอง แต่มิให้ใช้บังคับในกรณีที่กฎหมายใดกำหนดเรื่องผู้มีอำนาจสั่งยึด
หรืออายัดหรือขายทอดตลาดไว้โดยเฉพาะ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2542) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
เนื่องจากใบแจ้งการประเมินตามประมวลรัษฎากร ได้กำหนดให้อุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา
30 วันนับแต่วันได้รับแจ้งการประเมินโดยการอุทธรณ์ไม่เป็นการทุเลาการเสียภาษีอากร ถ้าไม่เสีย
ภาษีอากรภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ถือเป็นหนี้ภาษีอากรค้างซึ่งในจังหวัดอื่นนอกจาก
กรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในเขตท้องที่จังหวัดมีอำนาจยึดหรืออายัดและ
ขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือนำส่งภาษีอากรได้โดยมิต้องให้ศาลออกหมายยึด
หรือสั่ง กรณีการอายัดให้ปฏิบัติตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการอายัดทรัพย์สินตามความในมาตรา
12 แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ.2539
การแจ้งการประเมินตามใบแจ้งการประเมิน การอุทธรณ์ การอายัดทรัพย์สินตาม
ประมวลรัษฎากรและระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการอายัดทรัพย์สินฯ กรณีดังกล่าวถือว่ามีหลักเกณฑ์ที่
ประกันความเป็นธรรมหรือมีมาตรฐานในการปฏิบัติราชการไม่ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติ
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กรณีนี้จึงถือว่าการดำเนินการอายัดเงินค่าจ้างดังกล่าวเป็น
การปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.
2539 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติ
ราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ดังนั้น คำสั่งการอายัดเงินค่าจ้างดังกล่าว จึงชอบด้วยกฎหมายตามประมวลรัษฎากร และตาม
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

เลขตู้

: 64/30706

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161