ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
รูปหัวข้อย่อย
ว่าง
ว่าง


เลขที่หนังสือ

: กค 0811/6269

วันที่

: 21 มิถุนายน 2544

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีค่าธรรมเนียมการเป็นผู้แทนจัดจำหน่ายสินค้าอะไหล่รถยนต์

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 65, มาตรา 65 ตรี (13)(19)

ข้อหารือ

: บริษัทฯ ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษี มูลค่าเพิ่ม
ธุรกิจหลักคือการให้ คำแนะนำด้านการบริหารการเงิน รวมทั้งการจัดทำบัญชี และงานบริหารอื่น ๆ ให้
แก่บริษัทในกลุ่มฯ ทั้งในและต่างประเทศ ต่อมาบริษัท ก. (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ข.
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ธุรกิจหลักคือการจัดจำหน่ายรถยนต์และอะไหล่รถยนต์สำหรับรถ 2 ยี่ห้อ บริษัททั้ง 2 เป็นบริษัทในกลุ่มฯ
ได้ตกลงร่วมกันแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นผู้แทนจำหน่ายอะไหล่รถยนต์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริษัทฯ
จะมีหน้าที่ในการจัดหาอะไหล่รถยนต์ทั้งในและต่างประเทศจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ได้รับการรับรอง
มาตรฐานจากลุ่มบริษัทฯ โดยบริษัทฯ สามารถจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ดังกล่าวให้แก่ตัวแทนจำหน่าย
(Cars Dealers) และผู้จำหน่ายอะไหล่แท้ทั่วไป แต่ไม่สามารถขายให้กับผู้อื่น จากการนี้บริษัทฯ จะได้
รับค่าตอบแทนในอัตราที่เหมาะสมต่อความเสี่ยงของบริษัทฯ ซึ่งจะกำหนดจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการ
เป็นผู้แทนจัดจำหน่ายโดยตรงบวกด้วยอัตราผลตอบแทนที่บริษัททั้ง 2 ได้ร่วมกันพิจารณาและเห็นว่าเป็น
อัตราผลตอบแทนที่เป็นอัตราตลาด ในปีใด ๆ ที่บริษัทฯ ได้รับกำไรจากการดำเนินการจัดจำหน่ายสูงกว่า
ค่าตอบแทนที่บริษัทฯ คำนวณได้ บริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการได้รับสิทธิจัดจำหน่ายอะไหล่
รถยนต์ให้กับบริษัททั้ง 2 นอกจากนี้บริษัททั้ง 2 มีเงื่อนไขที่จะเข้ามีส่วนร่วมในการกำหนดราคาและ
ปริมาณอะไหล่รถยนต์แต่ละรุ่น ซึ่งการเข้าร่วมในการบริหาร สินค้าคงเหลือดังกล่าวอาจทำให้เกิดผล
ขาดทุนเมื่อเทียบกับกรณีที่บริษัทฯ จะมีอิสระในการกำหนดราคาและปริมาณสินค้าคงเหลือเองได้ ดังนั้น
บริษัททั้ง 2 จึงตกลงที่จะจ่ายเงินชดเชยหรือเงินสนับสนุนการขายให้แก่บริษัทฯ โดยคำนวณจากผล
ประกอบการจากการดำเนินงานเฉพาะของแผนกจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของบริษัทฯ หักด้วยค่าตอบแทน
ที่บริษัทฯ จะต้องได้รับตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทน และหากแผนกจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์มีผลขาดทุน บริษัทฯ
จะได้รับเงินสนับสนุนเท่ากับผลขาดทุนดังกล่าว บริษัทฯ จึงหารือว่า
1. บริษัทฯ จะต้องนำเงินชดเชยหรือเงินสนับสนุนการขายที่ได้รับจากบริษัททั้ง 2 เป็นรายได้
ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และเงิน
จำนวนดังกล่าวถือเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัททั้ง 2 ถูกต้องหรือไม่
2. บริษัททั้ง 2 ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมการได้รับสิทธิจัดจำหน่ายที่ได้รับจากบริษัทฯ เป็น
รายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และ
บริษัทฯ นำรายจ่ายค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13)
และ (19) แห่งประมวลรัษฎากร ถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

: 1. เงินชดเชยหรือเงินสนับสนุนการขายในกรณีแผนกจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของบริษัทฯ มี
ผลขาดทุน ที่บริษัทฯ ได้รับจากบริษัท ก. และบริษัท ข. ถือเป็นรายได้เนื่องจากกิจการที่กระทำใน
รอบระยะเวลาบัญชีที่บริษัทฯ ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ตาม
มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และเงินชดเชยหรือเงินสนับสนุนจำนวนดังกล่าวซึ่งบริษัททั้ง 2 ต้อง
จ่ายให้บริษัทฯ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการคงปริมาณอะไหล่รถยนต์ที่สามารถใช้ร่วมกันสำหรับรถ 2 ยี่ห้อ
ทำให้การจำหน่ายมีประสิทธิภาพ การจ่ายเงินให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้รับและมีข้อผูกพันจะต้องกระทำการ
อย่างใดอย่างหนึ่งตอบแทน ถือเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ บริษัททั้ง 2 นำมาถือ
เป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้าม ตามมาตรา 65 ตรี (13)แห่งประมวลรัษฎากร
2. บริษัททั้ง 2 ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมการได้รับสิทธิจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับจาก
บริษัทฯ มารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิตามมาตรา 65 แห่ง
ประมวลรัษฎากร และเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวที่บริษัทฯ ต้องจ่ายในกรณีที่แผนกจัดจำหน่ายอะไหล่
รถยนต์มีผลกำไรเกินกว่าค่าตอบแทนที่บริษัทฯ จะได้รับ โดยกำหนดจ่ายเมื่อแผนกจัดจำหน่ายอะไหล่
รถยนต์มีผลกำไร เงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวถือเป็นรายจ่ายที่กำหนดจ่ายจากผลกำไร จึงมิให้นำมาเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิตามมาตรา 65 ตรี (19)แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

: 64/30615


clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Friday, May 22, 2020

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161