|
|
 | | คำแนะนำสำหรับสำนักงานบัญชีตัวแทนที่ได้รับอนุญาตแล้ว
1. การยื่นคำขอยื่นแบบแสดงรายการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ภ.อ.01)
1.1 ยื่นคำขอยื่นแบบแสดงรายการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ภ.อ.01) ต่ออธิบดีกรมสรรพากร โดยผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ที่เมนู บริการอิเล็กทรอนิกส์>ยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต >สมัครสมาชิก เมื่อบันทึกข้อมูลตามแบบ ภ.อ.01 แล้วเสร็จให้สั่งพิมพ์ เพื่อลงนามในแบบดังกล่าว และนำส่งพร้อมกับข้อ ตกลงในการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตต่อสำนักบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ อาคารกรมสรรพากร ชั้น 27 ถนนพหลโยธินซอย 7 เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 ภายใน 15 วัน นับแต่ยื่นคำขอบนระบบเครือข่ายฯ
1.2 การยื่นคำขอ ภ.อ.01และข้อตกลงในการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้ยื่นเป็นรายผู้เสียภาษี
1.3 กรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำแบบ ภ.อ.01 สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร. 0-2272-8846-7
1.4 กรณีมีข้อสงสัย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์โทร. 0-2272-8984 , 0-2272-9205 , 0-2272-8000
2. การยื่นคำขอเพิ่ม/ลด รายลูกค้า
กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพากรแล้ว ต้องการเพิ่มหรือลดจำนวนลูกค้าจากเดิมที่แจ้งไว้ตามแบบ ต.ท.02 ให้ดำเนินการดังนี้
2.1 กรณีเพิ่มรายลูกค้า ให้จัดทำสัญญาตั้งตัวแทนฯ (แบบ ต.ท.03) เป็นรายลูกค้า เช่นเดียวกับการยื่นคำขอครั้งแรก
2.2 ยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ที่เมนู สำนักงานบัญชีตัวแทน >โปรแกรมคำขอเพิ่ม/ลด จำนวนผู้เสียภาษี (ต.ท.04)
2.3 บันทึกข้อมูลตามที่โปรแกรมดังกล่าวกำหนดตามลำดับโดยแยกบันทึกรายการเพิ่ม หรือลดรายลูกค้า
2.4 เมื่อบันทึกข้อมูลแล้วเสร็จให้สั่งพิมพ์แบบคำขอ ต.ท.04 ดังกล่าวเพื่อลงนาม และประทับตรานิติบุคคล (ถ้ามี) เพื่อส่งให้กรมสรรพากรพิจารณาต่อไป โดยกรณีเพิ่มรายลูกค้า ให้นำส่งเอกสารตามที่กำหนดไว้เช่นเดียวกับการดำเนิน การครั้งแรกที่ยื่นคำขอเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน
2.5 การยื่นแบบ ต.ท.04 แจ้งเพิ่ม/ลด รายลูกค้า ต้องดำเนินการแจ้งต่อกรมสรรพากรก่อนถึงกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีในเดือนภาษี หรือปีภาษีถัดไป
2.6 จำนวนลูกค้าของสำนักงานบัญชีตัวแทนที่ลดลงต้องไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนลูกค้าที่แจ้งไว้เมื่อขออนุญาต
3. การอบรมความรู้ด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
หลังจากได้รับอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนแล้ว ในปีต่อมาสำนักงานบัญชีตัวแทนจะต้องจัดส่งบุคคลซึ่งเป็นผู้ทำบัญชีของสำนักงาน ซึ่งอาจเป็นเจ้าของสำนักงาน หัวหน้าสำนักงาน กรรมการ หรือหุ้นส่วนซึ่งรับผิดชอบในการให้ บริการรับทำบัญชี หรือผู้ช่วยทำบัญชีของสำนักงาน เข้ารับการอบรมความรู้ด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดจำนวนอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ซึ่งจัดโดยองค์กรวิชาชีพฯ ที่อธิบดีกรมสรรพากรให้ความเห็นชอบเช่นเดียวกับกรณีการยื่นคำขอ เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนครั้งแรก
4. การแจ้งการเปลี่ยนแปลงของสำนักงานบัญชีตัวแทน
กรณีสำนักงานบัญชีมีการเปลี่ยนแปลงรายการทางทะเบียนตามที่ได้แจ้งไว้ต่อกรมสรรพากร เช่น การย้ายที่ตั้ง การเปิด/ปิด สถานประกอบการเพิ่มเติม เป็นต้น ให้ดำเนินการแจ้งการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางปฏิบัตินั้นๆ ที่กำหนดแล้วแต่กรณี และส่งสำเนาแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อแจ้งให้สำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษีทราบ
5. การยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน
กรณีใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนสิ้นสุดลง สำนักงานบัญชีตัวแทนมี สิทธิยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้หากสำนักงานบัญชีมีลูกค้าไม่น้อยกว่า 30 ราย ณ วันที่ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตและคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดตามประกาศกรมสรรพากรเรื่อง กำหนดคุณสมบัติ การขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนฯ ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2546 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2552 โดยต้องยื่นคำขอภายใน 2 เดือนก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นสุด หากประสงค์จะเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนต่อไป
5.1 ยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ที่เมนู สำนักงานบัญชีตัวแทน>โปรแกรมคำขอต่ออายุ/ขอขยายเวลา ต่ออายุใบอนุญาต (ต.ท.05)
5.2 บันทึกข้อมูลตามโปรแกรมกำหนด แล้วสั่งพิมพ์คำขอดังกล่าวเพื่อลงนาม พร้อมประทับตรานิติบุคคล (ถ้ามี) และส่งไปที่สำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษี เช่นเดียวกับที่ ยื่นคำขอครั้งแรก
5.3 กรณียื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนไม่ทันภายในกำหนดเวลา ให้ยื่นคำขอขยายเวลาตามโปรแกรมดังกล่าวข้างต้น
5.4 สำหรับคุณสมบัติการผ่านอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดี กรมสรรพากรกำหนด เจ้าของสำนักงานบัญชี หัวหน้าสำนักงาน กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการซึ่ง รับผิดชอบในการให้บริการรับทำบัญชี แล้วแต่กรณี ต้องผ่านการอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกำหนด คือ หลักสูตรการอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรแก่ผู้สอบบัญชีภาษีอากร ซึ่งจัดโดยองค์กรวิชาชีพฯ ที่อธิบดีกรมสรรพากรให้ความเห็นชอบ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นองค์กรวิชาชีพบัญชีหรือหลักสูตรที่อธิบดีให้ความเห็นชอบในการจัดอบรมแก่ผู้สอบบัญชีภาษีอากร ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2548 โดยหลักสูตรดังกล่าวต้องมีจำนวนอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ซึ่งประกอบด้วย
1) ภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ชั่วโมง
2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 3 ชั่วโมง
3) ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับอื่นๆ 3 ชั่วโมง
4) มาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการสอบบัญชี 3 ชั่วโมง
(ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2548 เป็นต้นไป)
กรณีได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้ขยายเวลาต่ออายุใบอนุญาตแล้ว สำนักงานบัญชีตัวแทนจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน ภายในเวลาไม่เกิน 2 เดือน นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ
6. กรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสำนักงานบัญชีตัวแทนติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักมาตรฐานการสอบบัญชีภาษีอากร โทร. 0-2272-9166
|

|
|
Last update : Monday, January 17, 2011
|
|
|
|