เลขที่หนังสือ |
: 0702/6434 |
วันที่ |
: 9 กรกฎาคม 2558 |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการเคหะ
|
ข้อกฎหมาย |
: ข้อ ๑ (๑๐) ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๘๖) ข้อ ๒ (๕๓) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖
|
ข้อหารือ |
สหกรณ์ ก. มีความประสงค์ขอหารือการออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการเคหะเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ตามมาตรา ๔๗ (๑) (ซ) แห่งประมวลรัษฎากร สรุปข้อเท็จจริง ดังนี้
๑. สมาชิกกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. โดยจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกันการกู้ยืมจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ชำระหนี้ไปจำนวนหนึ่ง คงเหลือจำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมาสมาชิกขอกู้เงินสหกรณ์ ก. เพิ่ม จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีการหักหนี้เดิม จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท และรับเป็นเงินสดส่วนที่เหลือ จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งยังคงใช้บ้านพร้อมที่ดินหลังเดิมจำนองเป็นประกัน โดยมีการจดจำนองใหม่กับสหกรณ์ ก. สหกรณ์ ก. มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จะคำนวณดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
๒. สมาชิกกู้เงินเพื่อการเคหะกับธนาคารพาณิชย์ มีการจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกัน โดยมีหนี้คงเหลือ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยขอเปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวจากธนาคารพาณิชย์มาจดจำนองต่อสหกรณ์ ก. ทั้งจำนวน ไม่มีการรับเงินเพิ่ม สหกรณ์ ก. มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จะคำนวณดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
๓. สมาชิกกู้เงินมิใช่เพื่อการเคหะกับธนาคารพาณิชย์ มีการจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกันการกู้ยืม โดยมีหนี้คงเหลือ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยขอเปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวจากธนาคารพาณิชย์มาจดจำนองต่อสหกรณ์ ก.ทั้งจำนวน ไม่มีการรับเงินเพิ่ม สหกรณ์ ก. มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จะคำนวณดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
๔. สมาชิกกู้เงินเพื่อการเคหะกับธนาคารพาณิชย์ มีการจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกัน โดยมีหนี้คงเหลือ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. จำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยขอเปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มาจดจำนองต่อสหกรณ์ ก. ทั้งจำนวน และมีการรวมหนี้ที่มีอยู่เดิมกับสหกรณ์ ก. อีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท สหกรณ์ ก. มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
๕. สมาชิกกู้เงินเพื่อการเคหะกับธนาคารพาณิชย์ มีการจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกัน โดยมีหนี้คงเหลือ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. จำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยขอเปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มาจดจำนองต่อสหกรณ์ ก. ทั้งจำนวน และมีการรวมหนี้ที่มีอยู่เดิมกับสหกรณ์ ก. อีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นจำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมาเมื่อสมาชิกชำระหนี้เงินกู้จากสหกรณ์ ก. ไปจำนวนหนึ่ง คงเหลือ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เพิ่มกับสหกรณ์ ก. อีกจำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยรับเป็นเงินสด จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท และจดจำนองกับสหกรณ์ด้วยหลักทรัพย์เดิม จำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท สหกรณ์ ก. มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
๖. สมาชิกกู้เงินเพื่อการเคหะกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มีการจำนองบ้านและที่ดินเป็นประกัน จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อชำระหนี้ไปจำนวนหนึ่ง คงเหลือจำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกได้เปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวมาจดจำนองต่อกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามจำนวนหนี้เดิม ๘๐๐,๐๐๐ บาท และเมื่อชำระหนี้ธนาคารฯ ไปจำนวนหนึ่ง คงเหลือ ๗๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกมาขอกู้เงินเพื่อการเคหะกับสหกรณ์ ก. จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยขอเปลี่ยนการจำนองหนี้ดังกล่าวจากธนาคารกรุงไทยฯ จำนวน ๗๐๐,๐๐๐ บาท มาจำนองต่อสหกรณ์ ก. ทั้งจำนวน และมีการรวมหนี้ที่มีอยู่เดิมกับสหกรณ์ ก. อีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมาเมื่อสมาชิกชำระหนี้ที่กู้จากสหกรณ์ ก. ไปจำนวนหนึ่ง คงเหลือ ๘๐๐,๐๐๐ บาท สมาชิกขอกู้เพิ่มกับสหกรณ์ ก. อีกจำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยรับเป็นเงินสด จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท และจดจำนองกับสหกรณ์ด้วยหลักทรัพย์เดิม จำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท สหกรณ์มีสิทธิออกใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหรือไม่ จากยอดเงินกู้ใด และจำนวนเท่าใด
|
แนววินิจฉัย |
๑. กรณี ๑. การให้กู้ยืมเงินเพิ่มซึ่งมีวงเงินเกินวงเงินที่ค้างชำระ สหกรณ์ ก. จะต้องออกหลักฐานหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างที่อยู่อาศัย เฉพาะดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ยืมเพื่อชำระหนี้ส่วนที่ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระ ดังนั้น หากสหกรณ์ ก. ให้กู้ยืมเงินเพิ่มเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมเดิมซึ่งมีวงเงินที่ค้างชำระ จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท สหกรณ์ ก. จึงต้องออกหลักฐานหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากจำนวนเงิน ๘๐๐,๐๐๐ บาท
๒. กรณี ๒. ถึง ๖. การกู้ยืมเงินจากสหกรณ์ ก. เพื่อไถ่ถอนหนี้ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ตามข้อ ๑ (๑๐) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๘๖) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ การหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตามมาตรา ๔๗ (๑) (ซ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓ ดังนั้น ดอกเบี้ยเงินกู้ที่กู้จากสหกรณ์ ก. เฉพาะส่วนที่ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระ จึงหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท และในส่วนที่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๙๐,๐๐๐ บาท ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามข้อ ๒ (๕๓) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร |
เลขตู้ |
: 78/39773 |