เลขที่หนังสือ |
: กค ๐๗๐๒/พ/๔๔๙๕ |
วันที่ |
: ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาหาร |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 81(1)(ข), 81(2)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
๑. บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการขายสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาหาร โดยนำเข้าสินค้าอาหารประเภทหอยแมลงภู่จากประเทศ A
และปลาหมึกสับปะรดจากประเทศ B เพื่อขายในประเทศไทย
๒. ผลิตภัณฑ์สินค้าหอยแมลงภู่ และปลาหมึกสับปะรด มีกระบวนการผลิตในต่างประเทศ ดังนี้
๒.๑ หอยแมลงภู่ที่นำเข้าจากประเทศ A ผู้ผลิตจะนำหอยแมลงภู่มาแช่เย็น จากนั้นนำมาลวกน้ำร้อนจนเกือบสุกเพื่อคัดแยกคุณภาพและขนาดแล้วจะทำการแช่แข็ง
อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ปิดผนึกสูญญากาศ และนำไปจัดเก็บในห้องแช่แข็ง
๒.๒ ปลาหมึกสับปะรดนำเข้าจากประเทศ B ผู้ผลิตจะนำปลาหมึกมาดึงหัว ลอกหนัง ล้างน้ำ ปั่นในน้ำเกลือเพื่อให้น้ำเกลือซึมเข้าเนื้อปลาหมึก จากนั้นทำการบั้ง หั่น
และลวกเนื้อปลาหมึกด้วยน้ำร้อนจนเกือบสุก แล้วนำมาแช่น้ำเย็น บรรจุถุงแวคคั่ม แช่แข็งและบรรจุกล่อง
บริษัทฯ จึงหารือว่า เมื่อบริษัทฯ นำสินค้าดังกล่าวเข้ามาและขายในประเทศไทย จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
สินค้าประเภทหอยแมลงภู่จากประเทศ A ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตโดยนำเอาหอยแมลงภู่มาลวกจนเกือบสุก และนำมาแช่แข็งเสร็จแล้วบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ปิดผนึกสูญญากาศ และปลาหมึกสับปะรดจากประเทศ B ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตโดยนำเอาปลาหมึกมาปั่นในน้ำเกลือ หั่นและลวกเนื้อปลาหมึกด้วยน้ำร้อนจนเกือบสุก แล้วนำมาบรรจุถุงแวคคั่ม แช่แข็ง และบรรจุกล่อง เข้าลักษณะเป็นเนื้อสัตว์ ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่ได้แปรรูปหรือแปรสภาพเป็นอาหารหรือสินค้าอื่นแล้ว มิใช่เป็นการรักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสียเป็นการชั่วคราวในระหว่างขนส่ง หรือรักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสีย เพื่อขายปลีกหรือขายส่ง จึงไม่เข้าลักษณะเป็นสินค้า ตามมาตรา 81 (1) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร การนำเข้าและการขายสินค้าทั้งสองประเภทดังกล่าวในราชอาณาจักรของบริษัทฯ จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ข) และมาตรา ๘๑ (๒) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด |
เลขตู้ |
: ๘๓/๔๐๙๒๒ |