ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประFAQ
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 


เลขที่หนังสือ : ๐๗๐๒/๔๑๙๔
วันที่ : ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๒
เรื่อง : ภาระภาษีอากร กรณีการโอนกิจการทั้งหมด
ข้อกฎหมาย : มาตรา ๗๔, ๗๗/๑ (๘) (ฉ), ๔๐ (๔) (ฉ)
ข้อหารือ           ๑.บริษัท ค ได้ตกลงทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ท จัดตั้งบริษัท คท โดยบริษัท ค ได้ตกลงทำสัญญาโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ให้แก่บริษัท คท โดยมีขั้นตอนและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
               ๑.๑บริษัท ค มีผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
               ๑.๒บริษัท ค จะดำเนินการปรับโครงสร้างกิจการด้วยวิธีการโอนกิจการทั้งหมดของตนเองให้แก่บริษัท คท ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา ๗๔ (๑) (ข) และ (ค) แห่งประมวลรัษฎากร โดยบริษัท ค จะโอนทั้งส่วนของสินทรัพย์และหนี้สินให้แก่บริษัท ค ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
                         (๑)มูลค่าสินทรัพย์รวมตามบัญชีของบริษัท ค ใน วันโอนกิจการ
                         (๒)ราคาที่ใช้ในการโอนกิจการทั้งหมดจะเป็นไปตามราคาตลาดของกิจการที่ประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าทางบัญชีอันส่งผลให้มีส่วนเกินเงินลงทุน
                         (๓)ในการโอนกิจการทั้งหมด บริษัท ค ยังคงไว้ซึ่งรายการเจ้าหนี้และรายการลูกหนี้บางรายการ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการโอนกิจการ ที่ไม่ได้โอนไปยังบริษัท คท อันได้แก่ เจ้าหนี้ค่าภาษีสรรพากรในกำไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้าวันโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ค และเจ้าหนี้ค่าวิชาชีพสอบบัญชี
               ๑.๓บริษัท คท จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเท่ากับราคาตลาดของกิจการตาม ๑.๒ (๒) ให้แก่ บริษัท ค เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าว
               ๑.๔ภายหลังจากการดำเนินการตาม ๑.๑ ถึง ๑.๓ แล้ว บริษัท ค จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท คท และบริษัท ค จะดำเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีทันทีในรอบระยะเวลาบัญชีที่ทำการโอนกิจการ
               ๑.๕ในกระบวนการชำระบัญชีของบริษัท ค ผู้ชำระบัญชีจะโอนหุ้นของบริษัท คทให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค ตามสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย
          ๒.เนื่องจากการโอนกิจการทั้งหมดตาม ๑. บริษัท ค จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ จึงมีประเด็นหารือ ดังนี้
               ๒.๑การโอนกิจการทั้งหมดตามขั้นตอนและรายละเอียดดังที่ปรากฏตาม ๑. เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๗๔ (๑) (ค) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่
               ๒.๒ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีที่บริษัท ค ได้จดทะเบียนเลิกกิจการและชำระบัญชีในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการโอนกิจการ แม้จะยังชำระบัญชีไม่แล้วเสร็จ ทรัพย์สินที่บริษัท ค ได้โอนให้กับบริษัท คท จะต้องตีราคาตามราคาตลาดในวันที่จดทะเบียนเลิก แต่ไม่ให้ถือราคาดังกล่าวเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิของบริษัท ค ดังนั้น หากราคาตลาดนั้นสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาทุน ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้น บริษัท ค ไม่ต้องนำมาถือเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๗๔ (๑) (ข) และ (ค) แห่งประมวลรัษฎากร ถูกต้อง หรือไม่
               ๒.๓ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากบริษัท คท เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และบริษัท ค ได้หยุดประกอบกิจการตั้งแต่วันโอนกิจการเป็นต้นไป แม้ว่าบริษัท ค จะไม่สามารถโอนรายการเจ้าหนี้และรายการลูกหนี้บางรายการให้กับบริษัท คท แต่รายการที่คงเหลือนั้น เกิดจากการดำเนินกิจการที่เสร็จสิ้นก่อนวันโอนกิจการ การโอนกิจการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการโอนกิจการทั้งหมดซึ่งไม่ถือเป็นการขายตามมาตรา ๗๗/๑ (๘) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท ค จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการโอนดังกล่าว ถูกต้อง หรือไม่
               ๒.๔ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ หากบริษัท ค หรือบริษัท คท ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการควบเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันของบริษัทมหาชน จำกัด หรือบริษัทจำกัด เพื่อยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนด การโอนอสังหาริมทรัพย์ การโอนหุ้นโดยการสลักหลังใบหุ้นเพื่อโอนหุ้นในบริษัท คท จากบริษัท ค ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค และการกระทำตราสารต่าง ๆ ในขั้นตอนการชำระบัญชีอันเนื่องมาจากการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน จะได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ตามมาตรา ๕ โสฬส และมาตรา ๖ (๓๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๓๐) พ.ศ. ๒๕๔๑ และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๕๗) พ.ศ. ๒๕๔๒ ถูกต้อง หรือไม่
               ๒.๕กรณีภาระภาษีของผู้ถือหุ้น ภายหลังจากการโอนกิจการทั้งหมดเสร็จสิ้น บริษัท ค จะต้องจดทะเบียนเลิกกิจการตามมาตรา ๗๒ แห่งประมวลรัษฎากร และเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีทันทีในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการโอนกิจการนั้น โดยผู้ชำระบัญชีจะทำการคืนทุนโดยการโอนหุ้นของบริษัท คท ที่ได้รับมาจากการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ค (โดยผู้ถือหุ้นของบริษัท ค จะโอนส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมด อันได้แก่ ทุน กำไรสะสมของบริษัท ค ก่อนการโอนกิจการ และส่วนเกินจากการตีราคาทรัพย์สินเพื่อแลกกับหุ้นของบริษัท คท ตามสัดส่วนการถือหุ้น) ซึ่งผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับเงินเป็นส่วนคืนทุน ดังนั้น ในกรณีการคืนทุนเป็นหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ค ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา ๔๐ (๔) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร หากบริษัท ค หรือบริษัท คท ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ประกาศกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนด ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ ๒ (๕๐) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๙๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๕ สัตตรส แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๔๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ถูกต้อง หรือไม่
แนววินิจฉัย           ๑.กรณีที่บริษัท ค โอนกิจการให้กับบริษัท คท โดยบริษัท ค ได้จดทะเบียนเลิกและมีการชำระบัญชีในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการโอนกิจการนั้น บริษัท ค จะต้องตีราคาทรัพย์สินที่โอนตามราคาตลาดในวันที่จดทะเบียนเลิก แต่ไม่ให้ถือราคาดังกล่าวเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิของบริษัท ค หากราคาตลาดสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาทุน บริษัท ค ไม่ต้องนำผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นมาถือเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๗๔ (๑) (ค) แห่งประมวลรัษฎากร
          ๒.กรณีที่บริษัท คท เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และบริษัท ค ได้หยุดประกอบกิจการตั้งแต่วันโอนกิจการเป็นต้นไป แม้ว่าบริษัท ค จะไม่สามารถโอนรายการเจ้าหนี้หรือรายการลูกหนี้คงเหลือบางรายการให้กับบริษัท คท เนื่องจากรายการที่คงเหลือนั้น เกิดจากการดำเนินกิจการที่เสร็จสิ้นก่อนวันโอนกิจการ การโอนกิจการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการโอนกิจการทั้งหมดซึ่งไม่ถือเป็นการขายตามมาตรา ๗๗/๑ (๘) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท ค จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการโอนกิจการดังกล่าว
          ๓.หากการโอนกิจการของบริษัท ค ตามข้อเท็จจริงข้างต้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามข้อ ๓ (๑) และ (๔) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการควบเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันของบริษัทมหาชน จำกัด หรือบริษัทจำกัด เพื่อยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ แล้ว โดยบริษัท ค หรือบริษัท คท ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นที่กำหนดในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว การโอนอสังหาริมทรัพย์ การโอนหุ้นโดยการสลักหลังใบหุ้นเพื่อโอนหุ้นในบริษัท คท จากบริษัท ค ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค และการกระทำตราสารต่าง ๆ ในขั้นตอนการชำระบัญชีอันเนื่องมาจากการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ย่อมได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ตามมาตรา ๕ โสฬส และมาตรา ๖ (๓๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๓๓๐) พ.ศ. ๒๕๔๑ และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๓๕๗) พ.ศ. ๒๕๔๒
          ๔.กรณีที่ผู้ชำระบัญชีทำการคืนทุนโดยการโอนหุ้นของบริษัท คท ที่ได้รับมาจากการโอนกิจการของบริษัท ค ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค ตาม ๒.๕ นั้น ผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นได้รับจากการคืนทุนในส่วนที่ตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร ฉะนั้น หากการโอนกิจการของบริษัท ค ให้แก่บริษัท คท เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามข้อ ๓ (๑) และ (๔) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ (ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยบริษัท ค หรือบริษัท คท ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นที่กำหนดในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าวแล้ว การที่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค ได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท คท จากการโอนกิจการของบริษัท ค ดังกล่าว ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ ๒ (๕๐) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙)ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๙๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕)ฯ และผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๕ สัตตรส แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๔๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ทั้งนี้ การได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าว จำกัดเฉพาะผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นได้รับจากการคืนทุนซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการโอนกิจการดังกล่าว ซึ่งไม่รวมกำไรและเงินที่กันไว้จากกำไรที่เกิดขึ้นก่อนการโอนกิจการแต่อย่างใด
เลขตู้ : ๘๒/๔๐๘๗๐

 

 

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Thursday, July 18, 2019

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161