เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/๓๘๙๒ |
วันที่ |
: ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ |
ข้อกฎหมาย |
: พระราชกฤษฎีกา ( ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ |
ข้อหารือ |
บริษัท บ. จำกัด (บริษัทฯ) ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุนหรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินแต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
๑. กรณีบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารก่อนวันที่ ๓พฤศจิกายน ๒๕๕๘ แต่การก่อสร้างอาคารยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้ขอต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างอีกครั้งในปี ๒๕๕๙ บริษัทฯ จะนำค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๒. กรณีบริษัทฯ ปรับปรุงและต่อเติมอาคารซึ่งไม่ต้องขอรับใบอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร เพราะไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการซื้อสิ่งของตกแต่งและค่าออกแบบอาคาร หากการต่อเติมและตกแต่งนั้นมีการทำสัญญาสั่งจ้างและมีการซื้อสิ่งของตกแต่งในระหว่างวันที่ ๓พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ แต่การต่อเติมและตกแต่งอาคารไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ เช่นนี้ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๓. กรณีบริษัทฯ จะยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้างต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในปี ๒๕๕๙ แต่มีรายการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องและเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหลังดังกล่าว หากเป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายไปจริงระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๔. บริษัทฯ จำเป็นต้องซื้อเครื่องจักรที่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดใหญ่ โดยเครื่องจักรดังกล่าวยังไม่เคยขายให้แก่บุคคลใดหรือผ่านการใช้งานจริงมาก่อน แต่เคยใช้เป็นสินค้าเพื่อประกอบการแสดงวิธีการใช้งาน (Demonstration Unit) หากบริษัทฯ ได้จัดซื้อและชำระเงินภายในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด (ตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙) จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๕. กรณีเครื่องมือแพทย์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องตรวจสอบอวัยวะโดยใช้พลังงานจากสนามแม่เหล็ก (MRI) ถือเป็นทรัพย์สินประเภทเครื่องจักร ตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่ไม่จำต้องได้มาหรืออยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ใช่หรือไม่
๖. กรณีบริษัทฯ จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในปี ๒๕๕๙ แต่ยังไม่นำออกมาใช้งาน เนื่องจากต้องรอการก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จ รายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินส่วนดังกล่าว จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๗. กรณีบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงพื้นที่ลานจอดรถ และจัดภูมิทัศน์ในโครงการเดียวกัน โดยถือเป็น Land Improvement and Landscape ซึ่งจะต้องมีการเทลานคอนกรีตก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๘. กรณีบริษัทฯ ลงทุนติดตั้งระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศและส่งเอกสารทางท่อในอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบโทรคมนาคม และ Networking รวมทั้งระบบวิศวกรรมต่าง ๆ ในอาคาร ซึ่งระบบที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ใช่ตัวอาคารหรืองานโยธา (Civil Work) ของอาคารแต่อย่างใด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ และต้องใช้สิทธิเป็นระยะเวลากี่รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
9. ระบบ ERP (เป็นระบบสารสนเทศขององค์กร) และซอฟต์แวร์โปรแกรมที่มีการจัดซื้อในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งต้องมีการติดตั้งและทดสอบระบบก่อนการใช้งาน แต่ไม่สามารถติดตั้งให้แล้วเสร็จทั้งหมดได้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ บริษัทฯ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
๑. กรณีการลงทุนในทรัพย์สินตาม ๑. - ๓ และ ๗. พิจารณาได้ดังนี้
๑.1๑ข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๐)ฯ ลงวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไว้ ดังนี้
ทรัพย์สินตามข้อ ๑ (๑) (๒) และ (๓) ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้น แล้วแต่กรณี ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ทรัพย์สินตามข้อ ๑ (๔) ต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน ดังนี้
(๑) ต้องขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
กรณีขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ไม่ว่าจะ
มีการขอต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารนั้นหรือไม่ก็ตาม ต้องมีการทำสัญญาจ้าง ใบสั่งจ้างหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้นตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยต้องไม่มีการลงทุน หรือต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินตามใบอนุญาตดังกล่าวไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือ
(๒) ต้องแจ้งก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามมาตรา ๓9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
กรณีแจ้งก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามมาตรา ๓9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ต้องมีการทำสัญญาจ้าง ใบสั่งจ้างหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้นตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยต้องไม่มีการลงทุน หรือต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินตามการแจ้งดังกล่าวไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือ
(๓) กรณีที่ไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ จะต้องเกิดจากสัญญาจ้าง ใบสั่งจ้างหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้นที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙.................
๑.๒ จากบทบัญญัติแห่งกฎหมายตาม ๑.๑ กรณีบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และมีการขอต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างอีกครั้งหนึ่งในปี ๒๕๕๙ เนื่องจากการก่อสร้างอาคารตามใบอนุญาตที่ได้รับมาก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ยังไม่แล้วเสร็จนั้น ถือได้ว่าบริษัทฯ ได้มีการลงทุนในทรัพย์สินมาแล้วไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ บริษัทฯ จึงไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กรณีบริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงและต่อเติมอาคาร ซึ่งการปรับปรุงและต่อเติมอาคารดังกล่าวไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บริษัทฯ จึงไม่ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือแจ้งการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแต่อย่างใดนั้น หากบริษัทฯ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ รายจ่ายดังกล่าวจะต้องเกิดจากสัญญาจ้าง ใบสั่งจ้างหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้นที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และต้องเป็นการจ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๓พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
กรณีบริษัทฯ ปรับปรุงพื้นที่ลานจอดรถและจัดภูมิทัศน์ในโครงการเดียวกัน ซึ่งถือเป็น Land Improvement and Landscape นั้น แม้การดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการเทลานคอนกรีตก่อสร้างก็ตาม แต่เนื่องจากทรัพย์สินนั้นไม่เข้าลักษณะเป็นอาคารถาวรตามมาตรา ๓ (๔) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และทรัพย์สินดังกล่าวก็ไม่เข้าลักษณะเป็นทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับดังกล่าว บริษัทฯ จึงไม่อาจนำรายจ่ายเพื่อการปรับปรุงพื้นที่ลานจอดรถและจัดภูมิทัศน์ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้แต่อย่างใด
๒. กรณีการลงทุนในทรัพย์สินตาม ๔. - ๖. พิจารณาได้ดังนี้
๒.๑ มาตรา ๓ วรรคสาม แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้กำหนดนิยามคำว่าเครื่องจักรไว้ว่า เครื่องจักร หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับใช้ก่อกำเนิดพลังงาน เปลี่ยน หรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก๊าซ ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ไฟลวีล ปุลเล สายพาน เพลา เกียร์ หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสนองกัน แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้น ๆ และมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวได้กำหนดลักษณะของทรัพย์สินที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๓ ไว้ กล่าวโดยสรุป คือ จะต้องเป็นทรัพย์สินที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน และเป็นทรัพย์สินที่นำมาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร โดยทรัพย์สินนั้นต้องได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เว้นแต่ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักรและอาคารถาวรที่อาจได้มาหรืออยู่ในสภาพพร้อมใช้การตามประสงค์ภายหลังวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ก็ได้ ประกอบกับข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้
(ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๐)ฯ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้กำหนดเงื่อนไขของรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าว คือ จะต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้น แล้วแต่กรณี ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
๒.๒ จากบทบัญญัติแห่งกฎหมายตาม 2.1 หากบริษัทฯ ได้จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งมีลักษณะเป็นเครื่องจักรตามบทนิยามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยได้จัดซื้อในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ และเป็นไปตามเงื่อนไขตามที่กล่าวใน ๒.๑ แล้ว รายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ย่อมใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้
อย่างไรก็ดี หากอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นเคยใช้เป็นสินค้าตัวอย่างแสดงวิธีการใช้งาน (Demonstration Unit) ในงานแสดงสินค้าต่าง ๆ มาก่อน กรณีย่อมถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว
ดังนั้น แม้บริษัทฯ จะได้จัดซื้อเครื่องจักรที่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์และชำระเงินภายในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด (ตั้งแต่วันที่ ๓พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙) ก็ไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้
๓. กรณีการลงทุนในทรัพย์สินตาม ๘. นั้น เนื่องจากระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศและส่งเอกสารทางท่อในอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบโทรคมนาคม และ Networking รวมทั้งระบบวิศวกรรมต่าง ๆ ในอาคาร ไม่ใช่ตัวอาคารหรืองานโยธา (Civil Work) ของอาคาร จึงไม่เข้าลักษณะเป็นอาคารถาวรตามมาตรา ๓ (๔) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ อย่างไรก็ดี หากทรัพย์สินดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖ )ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ รายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าว ย่อมใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๓ (๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
๔. กรณีการลงทุนในทรัพย์สินตาม ๙. เนื่องจากมาตรา ๔ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ กำหนดลักษณะของทรัพย์สินที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวไว้ สรุปความได้ว่า จะต้องเป็นทรัพย์สินที่นำมาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แหงประมวลรัษฎากร โดยทรัพย์สินนั้นต้องได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๗๐)ฯ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้กำหนดเงื่อนไขของรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ไว้ คือ จะต้องเกิดจากการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันทั้งสิ้นแล้วแต่กรณี ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ดังนั้น กรณีบริษัทฯ จัดซื้อระบบ ERP และซอฟต์แวร์โปรแกรมในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ แต่ไม่สามารถติดตั้งระบบทั้งหมดให้แล้วเสร็จให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามประสงค์ได้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ บริษัทฯ จึงไม่สามารถนำรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๖๖๙ |