เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/พ./๓๗๓๗ |
วันที่ |
: ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีโครงการการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐด้านสุขภาพ |
ข้อกฎหมาย |
:มาตรา ๘๑ (๑) (ญ) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
๑. กระทรวงสาธารณสุข (กระทรวงฯ) กำลังดำเนินโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในการจัดบริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของโรงพยาบาล ส. (โรงพยาบาลฯ) ซึ่งสัญญาสำหรับการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์และเอ็มอาร์ไอมีระยะเวลา ๕ ปี และ ๑๐ ปี ตามลำดับ โดยเอกชนรับผิดชอบในการออกแบบและปรับปรุงพื้นที่สำหรับติดตั้งและพื้นที่งานสำหรับให้บริการ และจัดหา ติดตั้งทดสอบการใช้งานดำเนินการ บำรุงรักษา รวมทั้งการรายงานผลการอ่านภาพการตรวจให้ได้ตามที่กำหนด ส่วนโรงพยาบาลฯ รับผิดชอบในการจัดเตรียมและส่งมอบพื้นที่และระบบสาธารณูปโภค ให้เอกชน และกำหนดมาตรฐานและควบคุมกำกับให้การดำเนินงานได้คุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนด
๒. รายได้ที่โรงพยาบาลฯ ได้รับเป็นค่าบริการรักษาพยาบาล คือ เงินเหมาจ่ายจากกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและกองทุนประกันสังคม สิทธิสวัสดิการข้าราชการ โดยผู้ป่วยในตามระบบ กลุ่มวินิจฉัยโรค (DRG) ผู้ป่วยนอกตามอัตราที่กำหนดจากกรมบัญชีกลางและผู้ที่จ่ายเงินเอง ส่วนรายรับที่โรงพยาบาลฯ ต้องแบ่งจ่ายให้เอกชนเป็นการจ่าย ตามปริมาณการใช้งาน (Usage based payment) และผลการดำเนินงาน (Performance based payment) ตามตัวชี้วัด (KPI) โดยมีข้อตกลงราคาตามสัญญาที่กำหนด ซึ่งนำมาจากผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนการจัดตั้งศูนย์การตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
๓. กระทรวงฯ มีความประสงค์จะดำเนินการโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริการสาธารณะและเป็นโครงการที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ และเพื่อให้กระทรวงฯ สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงขอหารือดังนี้
(๑) เอกชนเป็นผู้จัดหาเครื่องมือและติดตั้งในโรงพยาบาลฯ และให้บริการผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลฯ เป็นผู้เก็บค่าบริการจากผู้ป่วย กรณีดังกล่าวเอกชนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ อย่างไร (๒) โรงพยาบาลฯ แบ่งรายรับที่ได้จากค่าบริการผู้ป่วยให้กับเอกชนซึ่งร่วมลงทุน โดยเอกชนเป็นผู้จัดหาเครื่องมือและติดตั้งในโรงพยาบาลฯ และให้บริการผู้ป่วย กรณีดังกล่าวเอกชนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
๑. โรงพยาบาลฯ เป็นโรงพยาบาลของรัฐประกอบกิจการสถานพยาบาลได้ให้บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแก่ผู้ป่วยของโรงพยาบาลฯ ณ สถานประกอบการ จึงเข้าลักษณะเป็นการให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ญ) แห่งประมวลรัษฎากร
๒. โรงพยาบาลฯ กับเอกชนร่วมลงทุนในการจัดบริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเอกชนผู้ร่วมลงทุนรับผิดชอบในการออกแบบและปรับปรุงพื้นที่สำหรับการให้บริการจัดหาติดตั้งทดสอบการใช้งานดำเนินการ บำรุงรักษา รวมทั้งการรายงานผลการอ่านภาพการตรวจให้ได้ตามที่กำหนด และได้รับส่วนแบ่งรายได้สำหรับการให้บริการดังกล่าวจากโรงพยาบาลฯ หากเอกชนที่ร่วมลงทุนมิได้จดทะเบียนเป็นสถานพยาบาล ตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลในโรงพยาบาลฯ การให้บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลฯ จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ญ) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นรายรับจากส่วนแบ่งจากการให้บริการที่เอกชนผู้ร่วมลงทุนได้ทำสัญญาร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลฯ จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา ๗๗/๒ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๖๖๔ |