เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/๓๐๗๑ |
วันที่ |
: ๒๐ เมษายน ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามหลักเกณฑ์ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) |
ข้อหารือ |
(สภ.) หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
๑.นาย ก. ในฐานะผู้จัดการมรดก นาย ข. ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (ค.๑๐) สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี ๒๕๕๔ จำนวนเงิน ๒๖๖,๕๗๐ บาท โดยแจ้งมูลเหตุที่ขอคืนว่า ชำระภาษีอากรไว้โดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่ง สท. ตรวจสอบเอกสารแล้วพบข้อเท็จจริงสรุปได้ดังนี้
๑.๑วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ บริษัท A. จำกัด (บริษัทฯ) โดยนาย ก. กรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ ได้ทำสัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เลขที่ TDR WC ๑๑ ๐๐๐๖๗ ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔(สัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ) กับธนาคาร (ธนาคารฯ) เจ้าหนี้ โดยหนังสือดังกล่าวเป็นการทำนิติกรรมฝ่ายเดียว ไม่มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ ลงนามในสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ นาย ก. ได้ทำสัญญาขายรวมหกแปลง ในที่ดิน น.ส. ๓ ก. จำนวน ๖ แปลงตามโฉนดเลขที่ ๖๙๕ ๖๙๙ ๒๐๗๘ ๒๓๓๘ ๒๓๕๗ และ ๒๗๑๗ ตำบล อำเภอ จังหวัด (สัญญาขายที่ดินฯ) ในราคา ๑๒,๘๓๖,๐๐๐ บาท ให้แก่บุคคลภายนอก และเมื่อวันที่ ๙กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ บริษัทฯ โดย นาย ก. ได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เลขที่ TDR WC ๑๒/๐๐๐๓๖ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ กับธนาคารฯ เจ้าหนี้ และโดยลูกหนี้ (บริษัทฯ โดย นาย ก. และหรือผู้ค้ำประกัน ตกลงนำเงินที่ได้จากขายที่ดิน น.ส. ๓ ก. จำนวน ๖ แปลง ตามสัญญาขายฯ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งได้จำนองไว้กับธนาคารฯ ให้แก่บุคคลภายนอก โดยจะชำระให้ธนาคารฯ ภายในวันที่ซื้อขาย คือ ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ตามข้อ ๕ ของสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และข้อ ๓ ของหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔
๑.๒สท. ได้มีหนังสือแจ้งไม่คืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ค.๓๐) แก่ นาย ก. สำหรับปีภาษี ๒๕๕๔ ตามหนังสือที่ กค ๐๗๐๘.๐๓กว/๕๓๓๗ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ และที่ กค ๐๗๐๘.๐๓กว/๖๗๖๑ ลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยมีเหตุผลสรุปได้ว่า เอกสารหลักฐานที่นาย ก.ได้ส่งมอบให้ สท. พิจารณาคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด กล่าวคือ หนังสือผ่อนผันการชำระหนี้ฯ เป็นหนังสือแสดงเจตนาขอผ่อนผันการชำระหนี้ที่ลงนามโดยลูกหนี้ผู้ค้ำประกัน และพยาน ไม่มีการลงนามของเจ้าหนี้ ธนาคารฯ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับยกเว้นภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔
๒.นาย ก. ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่คืนเงินภาษีอากร ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ คัดค้านหนังสือแจ้งไม่คืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ค.๓๐) สำหรับปีภาษี ๒๕๕๔ โดยให้เหตุผลสรุปได้ว่า สัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ เป็นเอกสารสำคัญที่ธนาคารฯ ทำกับลูกหนี้ ไม่ใช่เอกสารคำขอของลูกหนี้ และมีการลงนามโดยพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ ตามหนังสือของธนาคารฯ ที่ สช.พ.ลบ.๖๒๓/๒๕๕๕ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ซึ่งธนาคารฯ ได้ชี้แจงดังนี้
๒.๑ สัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ เป็นเอกสารที่ลูกหนี้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารฯ และลงนามโดยพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ
๒.๒ สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นหนังสือรับรองการชำระหนี้ตามหนังสือแสดงเจตนาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ ซึ่งหนังสือแสดงเจตนาผ่อนผันชำระหนี้ฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาสาระเหมือนกับหนังสือแจ้งให้สำนักงานที่ดินและกรมสรรพากร เนื่องจากขณะที่ลูกหนี้ทำนิติกรรมโอนอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔ กฎหมายเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีอากรกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ยังไม่มีผลใช้บังคับ สำนักงานที่ดินจึงไม่สามารถลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินได้แต่อย่างใด
๓.สภ. มีความเห็นดังนี้
๓.๑เนื่องจากข้อ ๖ ของสัญญาขายที่ดินฯ ระบุวัตถุประสงค์ว่า ซื้อเพื่อขยายกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ของบริษัทฯ ขายเพื่อนำเงินไปแบ่งปันให้แก่ทายาทและใช้หนี้สินต่อกองมรดก ผู้ขายจึงไม่มีเจตนาที่จะนำเงินไปชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน
๓.๒เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ นาย ก. โอนกรรมสิทธิ์งหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) เป็นช่วงเวลาก่อนที่พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ จะมีผลใช้บังคับ และต่อมาภายหลังจึงได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
๓.๓สัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขการโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ต่อสถาบันการเงิน จึงไม่เป็นสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ดังนั้น กรณีตาม ๓.๑ ถึง ๓.๓ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ตามมาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับจำนวนเงินที่ได้รับจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นำมาจำนองเป็นประกันหนี้ของเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่น ซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อนำไปชำระหนี้ที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินซึ่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ สภ. จึงขอทราบว่า ความเห็นดังกล่าว ถูกต้องหรือไม่ |
แนววินิจฉัย |
๑.กรณี นาย ก. ทำสัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฯ กับธนาคารฯ หากสัญญาผ่อนผันการชำระหนี้ฉบับดังกล่าว ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด นาย ก. ย่อมไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗)พ.ศ. ๒๕๕๔ แต่อย่างใด
๒.กรณีนายก.โอนที่ดิน น.ส. ๓ ก. จำนวน ๖ แปลง ตามโฉนดเลขที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ และ ๖ ตำบลศิลาทิพย์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ที่ได้จดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้กับเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินตามสัญญาขายที่ดินฯ เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ และได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารฯ เจ้าหนี้ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ (กล่าวคือ นาย ก.ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามสัญญาขายที่ดินฯ ก่อนวันทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้) ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่า การขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน เจ้าหนี้นั้น โดยหลักการควรเกิดขึ้นภายหลังจากทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วดังนั้น การโอนขายอสังหาริมทรัพย์ของนาย ก. จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ ตามมาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ แต่อย่างใด |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๖๒๖ |