| เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/๒๖๗๐ |
วันที่ |
: ๒ เมษายน ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
|
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา พระราชกฤษฎีกา ๖๐๔
|
ข้อหารือ |
บริษัท ห. จำกัด (บริษัทฯ) ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ มีรายละเอียดสรุปได้ว่า บริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน บริษัทฯ มีโรงงาน ๒ แห่ง ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเหล็กรูปพรรณ และผลิตเหล็กแท่ง กล่าวคือ
๑.โรงงานที่ ๑ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเหล็กรูปพรรณ ดังนี้
๑.๑ในปี ๒๕๔๐ บริษัทฯ ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๔๐ ซึ่งกำหนดให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา ๘ ปี นับจากวันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการ และลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ ๕๐ เป็นเวลา ๕ ปี นับจากวันพ้นกำหนด เวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยระยะเวลาการใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้สิ้นสุดในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘
๑.๒ในปี ๒๕๕๗ บริษัทฯ ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตามบัตรส่งเสริมการลงทุนตาม ๑.๑ ข้างต้น (ไม่ได้เป็นโครงการตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแต่อย่างใด) ซึ่งบริษัทฯ มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ ๕๐ ของเงินลงทุนมูลค่า ๑๔๑ ล้านบาท (ไม่เกิน ๗๐.๕ ล้านบาท) เป็นเวลา ๓ ปี โดยมีเงื่อนไขว่า บริษัทฯ จะต้องเปิดดำเนินการต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐
๑.๓ในปี ๒๕๕๙ บริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อมาทดแทนเครื่องจักรเดิม และนำไปใช้ร่วมกับเครื่องจักรอื่น ๆ ในสายการผลิตโครงสร้างรูปพรรณในโรงงานที่ ๑ ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตามบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗
๒.โรงงานที่ ๒ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเหล็กแท่งตามบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา ๘ ปี นับจากวันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการ และลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ ๕๐ เป็นเวลา ๕ ปี นับจากวันพ้นกำหนดเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งระยะเวลาการใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ และบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการตามบัตรส่งเสริมการลงทุนฉบับนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๓ และได้ซื้อเครื่องจักรใหม่ในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ บริษัทฯ ขอหารือว่า กรณีบริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่มาใช้ในโรงงานที่ ๑ ซี่งได้รับส่งเสริมการลงทุนตามบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ และโรงงานที่ ๒ ซี่งได้รับส่งเสริมการลงทุนตามบัตรส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ และคาดว่าจะติดตั้งเสร็จและพร้อมใช้งานได้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ นั้น บริษัทฯ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
ตามมาตรา ๔ (๕) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ กำหนดลักษณะของทรัพย์สินที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ไว้ว่า ต้องไม่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่เป็นการนำไปใช้ในโครงการตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนจริงและเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิประโยชน์นั้น ดังนั้น กรณีบริษัทฯ ได้ซื้อเครื่องจักรในระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ เพื่อนำไปใช้ในโรงงานทั้ง ๒ แห่ง ซึ่งได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการเหล็กรูปพรรณและกิจการผลิตเหล็กแท่ง อันเป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน โดยเครื่องจักรดังกล่าวไม่ได้นำไปใช้ในโครงการตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแต่อย่างใด บริษัทฯ จึงไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ สำหรับการลงทุนในเครื่องจักรนั้น |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๖๑๘ |
