เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/พ.๑๘๓๒ |
วันที่ |
: ๒ มีนาคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเฉลี่ยภาษีซื้อสำหรับกิจการประกันวินาศภัย
|
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๙๑/๒ (๓) มาตรา ๙๑/๕ (๓) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ
|
ข้อหารือ |
๑. สมาคมฯ มีบริษัทสมาชิกฯ ที่ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ประกอบด้วย การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยเบ็ดเตล็ด เช่น การประกันสุขภาพ และการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น การประกอบกิจการของบริษัทสมาชิกฯ มีทั้งรายได้ที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และรายรับที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งบริษัทสมาชิกฯ ในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนได้นำสินค้าหรือบริการที่ได้มาหรือได้รับมาในการประกอบกิจการของตนไปใช้ หรือจะใช้ในกิจการทั้งสองประเภท จึงต้องเฉลี่ยภาษีซื้อที่จะนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๒/๓ และมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อตามมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
๒ .สมาคมฯ ในฐานะตัวแทนของบริษัทสมาชิกฯ ขอชี้แจงดังนี้
๒.๑ ในการประกอบกิจการประกันวินาศภัย บริษัทสมาชิกฯ มีกรมธรรม์ประกันภัย ๒ กลุ่มหลัก ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัยประเภทการรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกิจการประเภท
รับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๒ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร และกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นนอกเหนือจากการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันวินาศภัยที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๗๗/๒ แห่งประมวลรัษฎากร
๒.๒ บริษัทสมาชิกฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการหลัก ๔ ประเภท ดังนี้
(1) เบี้ยประกันภัยรับจากการรับประกันภัยนอกเหนือจากการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๗๗/๒ แห่งประมวลรัษฎากร มีเบี้ยประกันภัยเป็นมูลค่าของฐานภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๗๙ แห่งประมวลรัษฎากร
(๒) เบี้ยประกันภัยรับจากการรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๒ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร โดยมีดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเป็นมูลค่าของฐานภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเบี้ยประกันภัยรับไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษีธุรกิจเฉพาะ และไม่เข้าลักษ๓ะเป็นรายได้ที่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ ๔ วรรคสอง (3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
(๓) รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกิดจากการนำเงินที่ได้รับจากการรับประกันภัยนอกเหนือจากการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไปลงทุน ซึ่งไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ใช่รายได้ที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ ๔ วรรคสอง (ง) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
(๔) รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกิดจากการนำเงินที่ได้รับจากการนำเบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไปลงทุน ซึ่งเป็นรายรับที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/
๒ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร และถือเป็นฐานภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร
๒.๓ บริษัทสมาชิกฯ มีความเข้าใจว่า ค่าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลตาม ๓.๒ (๒) ไม่ถือเป็นรายได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๗๗/๒ แห่งประมวลรัษฎากร และกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น ในการเฉลี่ยภาษีซื้อ บริษัทสมาชิกฯ จึงไม่ได้นำค่าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นฐานรายได้ของทั้งสองประเภทกิจการตามข้อ ๔ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่อย่างใด สมาคมฯ จึงหารือว่า ความเข้าใจของบริษัทสมาชิกฯ ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
นื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลเป็นกรมธรรม์ที่มุ่งเฉลี่ยภัยอันเนื่องจากการตาย การสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพของบุคคลหนึ่งเป็นสำคัญ จึงถือเป็นการรับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๒ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร โดยฐานภาษีสำหรับกิจการรับประกันชีวิต ได้แก่ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ ตามมาตรา ๙๑/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ค่าเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลจึงไม่ใช่ฐานภาษีสำหรับกิจการรับประกันชีวิต บริษัทสมาชิกฯ จึงไม่ต้องนำค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้เอาประกันภัยดังกล่าว
มาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และไม่ต้องนำค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมารวมคำนวณเป็นฐานรายได้ในการเฉลี่ยภาษีซื้อทั้งในส่วนของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ ๔ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่อย่างใด |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๕๘๘ |