|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค ๐๗๐๒/๕๘๔ |
วันที่ |
: ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
กรณีโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของบุคคลให้แก่นิติบุคคล |
ข้อกฎหมาย |
: พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ.๒๕๖๐ |
ข้อหารือ |
ขอหารือเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง ข้อหารือดังกล่าวเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะพิจารณาข้อหารือดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑. บุคคลธรรมดาซึ่งต้องการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อใช้เป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ ในกรณีดังต่อไปนี้หรือไม่ อย่างไร
๑.๑ กรณีที่ ๑ ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของบุคคลธรรมดาที่ให้ผู้อื่นเช่า ถือว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการของบุคคลที่โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่บริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อใช้เป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นตามราคาตลาดหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะสูงกว่า จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือไม่
๑.๒ กรณีที่ ๒ ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของบุคคลธรรมดาที่ยังมิได้ใช้ในการประกอบกิจการ หากต้องการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่บริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อใช้เป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นตามราคาตลาดหรือราคาประเมินแล้วแต่อย่างใดจะสูงกว่า จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือไม่
๒. บริษัทที่จดทะเบียนรับโอนทรัพย์สินตามข้อ ๑. ต้องประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์เดิมของบุคคลธรรมดาก่อนการโอนทรัพย์สินดังกล่าว เช่น การให้เช่าทรัพย์สินหรืออาจมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการอื่นๆ ได้ จึงจะเข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ ๕ เพื่อจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือไม่
|
แนววินิจฉัย |
๑. บุคคลธรรมดาได้ประกอบกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นปกติธุระและมีการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการของตนให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อใช้เป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ด้วยราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น หรือราคาต้นทุนการซื้อที่ดินหรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่บุคคลผู้โอนได้ซื้อมาตามหลักฐานสัญญาซื้อขายที่ได้ทำเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แล้วแต่อย่างใดจะสูงกว่า โดยถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่รับโอนทรัพย์สินเป็นจำนวนไม่น้อยกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่โอน ย่อมได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ ๔) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ ๕)ฯ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ ๖) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
๒. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ที่รับโอนทรัพย์สินจากบุคคลธรรมดาเพื่อใช้เป็นทุนจดทะเบียน จะต้องมีการประกอบกิจการต่อเนื่องกับการประกอบกิจการของบุคคลธรรมดาก่อนการโอนทรัพย์สินดังกล่าว ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐
|
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๕๕๓ |

|
|
Last update : Saturday, March 17, 2018
|
|
|
|